บทคัดย่อ
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีความสำคัญในการดำเนินชีวิตการวิจัยพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ(STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะช่วยพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้สามารถคิดเป็นทำเป็นแก้ปัญหาเป็นการให้ผู้เรียนได้ทำแบบฝึกมากๆจะช่วยให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางการเรียนรู้ในเนื้อหาได้ดีขึ้นและการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD เป็นเทคนิคที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งสมาชิกในกลุ่มมีความรู้ต่างกัน คนที่เรียนเก่งจะได้ช่วยเหลือคนที่อ่อนกว่า ทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทั้งทางด้านร่างกายอารมณ์สังคมและสติปัญญาส่งผลให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัญหาเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อศึกษาความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อน-หลังการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านนาตาล่วง) สำนักการศึกษาเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 11 ชุด คู่มือการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.33-1.00 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมติฐาน t-test
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการศึกษาปัญหาการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ พบว่าการเรียนการสอนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สามารถแก้ปัญหาการสอนของครูคณิตศาสตร์ได้
2. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.53/86.09
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6981
5. นักเรียนมีความพึงพอใจที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
นิยามศัพท์เฉพาะ ในการวิจัยครั้งนี้ ได้ให้ความหมายเฉพาะของคำที่มีความสำคัญต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผู้วิจัยได้กำหนดคำนิยามศัพท์เฉพาะไว้ดังนี้
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) หมายถึง ชุดของกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ ทักษะกระบวนการทางทักษะคณิตศาสตร์ และความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
2. แบบฝึกทักษะ หมายถึง ชุดแบบฝึกทักษะที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สำหรับฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งนำไปใช้ประกอบรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD)
3. การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) หมายถึง กิจกรรมการเรียนรู้ที่แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 5 คน สมาชิกในกลุ่มมีความสามารถคละกันมีทั้งนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน ตามอัตราส่วน 1 : 2 : 1 ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเนื้อหาที่ครูกำหนด มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยนักเรียนเก่งช่วยอธิบายและตรวจงานของเพื่อนในขณะที่ทำกิจกรรม ตามขั้นตอน ดังนี้
3.1 ครูนำเสนอประเด็นหรือเนื้อหาใหม่ เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนโดยวิธีการบรรยาย อภิปราย หรือการใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
3.2 แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มแบบคละความสามารถ
3.3 นักเรียนร่วมกันศึกษาเนื้อหาที่ครูกำหนด และทำแบบฝึกทักษะ นักเรียนเก่งในกลุ่มจะเป็นผู้ตรวจแบบฝึกทักษะของสมาชิกในกลุ่ม จากบัตรเฉลยคำตอบ
3.4 นักเรียนทุกคนทำแบบทดสอบ เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียน
3.5 นำคะแนนจากการตรวจแบบฝึกทักษะ และแบบทดสอบของนักเรียนทุกคนในกลุ่มรวมกันเป็นคะแนนกลุ่ม ถ้าจำนวนสมาชิกในกลุ่มไม่เท่ากันต้องหาค่าเฉลี่ย
3.6 กลุ่มที่ได้คะแนนรวมสูงสุด จะได้รับการยกย่องชมเชย
4. ประสิทธิภาพ หมายถึง ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยเปรียบเทียบคะแนนของกระบวนการกับคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนตามเกณฑ์ 80/80
80 ตัวแรก เป็นคะแนนประสิทธิภาพของกระบวนการ ได้มาจากร้อยละของคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบฝึกทักษะที่ 1,2 และแบบทดสอบชุดที่ 1-11 ของนักเรียนทุกคนในระหว่างเรียน
80 ตัวหลัง เป็นคะแนนประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ได้มาจากร้อยละของคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนทุกคน
5. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หรือ E.I หมายถึง ค่าที่แสดงความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้นจากการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) จาก ความรู้พื้นฐานเดิมของผู้เรียนที่มีอยู่แล้ว โดยเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
6. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนที่ได้จากกระบวนการเรียนรู้หลังจากเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์สู่ความเป็นเลิศด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (STAD) เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
7. ความพึงพอใจของนักเรียน หมายถึง ความรู้สึกยินดี ชอบใจในการปฏิบัติกิจกรรม
การเรียนของนักเรียนที่ต้องการดำเนินกิจกรรมนั้น ๆ จนบรรลุผลสำเร็จ ซึ่งประเมินได้จากแบบสอบถามวัดความพึงพอใจที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 15 ข้อ