ชื่อเรื่อง การใช้วิธีการสอนแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
ผู้วิจัย นายอุเทน วงษ์ซีวะสกุล
ระยะเวลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมาย
การใช้วิธีการสอนแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึก และแบบทดสอบเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการใช้วิธีการสอนแบบผสมผสานให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังจากการใช้วิธีสอนแบบผสมผสาน (3) เพื่อวัดความพึงพอใจของนักเรียนหลังการใช้วิธีการสอนแบบผสมผสานเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
ในการวิจัยครั้งนี้ประชากร คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ปีการศึกษา 2561 ของโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง รวมจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 680 คน โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปางที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ อ23218 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวนทั้งสิ้น 26 คน โดยเป็นการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งผู้วิจัยเป็นผู้สอนในห้องเรียนดังกล่าว
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยการใช้วิธีการสอนแบบผสมผสาน สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จำนวน 9 หน่วยการเรียนรู้ ฝึก ซึ่งแต่ละแบบฝึกประกอบด้วย ข้อสอบหาคำอ้างอิง จำนวน 5 ข้อ, ข้อสอบแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 5 ข้อ, ข้อสอบแบบระบุข้อความถูกผิด จำนวน 5 ข้อและข้อสอบแบบจับคู่ความสัมพันธ์ของเนื้อเรื่อง จำนวน 5 ข้อ รวมทั้งหมด 20 ข้อ (2) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ก่อนและหลังเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อสอบหาคำอ้างอิง จำนวน 5 ข้อ, ข้อสอบแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ, ข้อสอบแบบระบุข้อความถูกผิด จำนวน 5 ข้อและข้อสอบแบบจับคู่ความสัมพันธ์ของเนื้อเรื่อง จำนวน 5 ข้อ รวมทั้งหมด 30 ข้อ (3) แบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้การใช้วิธีการสอนแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จำนวน 10 ข้อ ซึ่งเป็นแบบประมาณค่า 5 ระดับ
สถิติที่ใช้เพื่อคำนวณวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาค้นคว้า
ผลการวิจัยพบว่า การใช้วิธีการสอนแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
ผลการใช้แบบฝึก และแบบทดสอบเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยการใช้วิธีการสอนแบบผสมผสานมีประสิทธิภาพ 82.63/85.13 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนดไว้ คือ 80/80
นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นหลังจากการใช้วิธีการสอนแบบผสมผสานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียน โดยใช้วิธีการสอนแบบผสมผสานหลังการศึกษาสูงกว่าก่อนการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทุกหน่วยการเรียน และมีคะแนนการทดสอบหลังเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 25.54 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 85.13 และผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียน ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 21.35 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 71.15 โดยมีผลต่างของคะแนน หรือคะแนนความก้าวหน้ามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.19 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 13.97
นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตรวมคือ 4.66 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมคือ 0.60