ชื่อผลงาน : รายงานการศึกษา การสร้างและพัฒนาชุดการเรียนรู้รายวิชา ส 22102ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน : นายสัณฐิติ รัตนโฆสิต
ปีที่ศึกษา : 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนาชุดการเรียนรู้ รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้ รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดการเรียนรู้รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 5 ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 1 ห้องเรียน จำนวน 34 คน ระยะเวลา 18 ชั่วโมง แบบแผนการทดลอง คือ One Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แบบสอบถามความต้องการของนักเรียน 2) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structure Interview) 3) ชุดการเรียนรู้รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 5 ชุดการเรียนรู้ 4) แบบทดลองวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ วิเคราะห์มูลด้วยค่า ร้อยละ (1.) ค่าเฉลี่ย (¯X) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t-test แบบ Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)
ผลการศึกษาพบว่า
1. นักเรียนและผู้เกี่ยวข้องเห็นว่า องค์ประกอบของชุดการเรียนรู้ควรมีคำชี้แจงใบความรู้ ใบกิจกรรมมีเนื้อหาเรื่องความสำคัญของแหล่งอารยธรรมโบราณในภูมิภาคเอเชีย เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวนักเรียนและจำเป็นต้องเรียนรู้มีรูปแบบลักษณะเป็นข่าวสถานการณ์ตัวอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ใช้ภาษาที่ง่ายเหมาะสมกับวัยจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากตัวอย่างและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ใช้สื่อที่เป็นวัสดุอุปกรณ์และรูปภาพ นักเรียนต้องการให้ชุดการเรียนรู้ใช้ประโยชน์ในเรื่องรู้รากเหง้าของตนเอง เพื่อเข้าใจและภูมิใจในชาติของตน ควรมีการประเมินผล ก่อนเรียนและหลังเรียน และวัดให้ครอบคลุมพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.35/81.98 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้รายวิชา ส22103 ประวัติศาสตร์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย (¯X) รวม 5 ด้าน เท่ากับ 4.39 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.76