ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559 – 2560

ชื่อเรื่องวิจัย : การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโดยใช้ KANTANGPIT

MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559 – 2560

ชื่อผู้วิจัย : นางยุภา พรเศรษฐ์

ปีการศึกษา : 2559 – 2560

บทคัดย่อ

การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากรปีการศึกษา 2559 – 2560 มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาระดับคุณภาพการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโรงเรียนกันตังพิทยากรโดยใช้ KANTANGPIT MODEL ปีการศึกษา 2559-2560 2)เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากรปีการศึกษา 2559-2560 3)เพื่อศึกษาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากรปีการศึกษา 2559-2560 4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ที่มีผลต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียน โดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560 5) เพื่อศึกษาผลกระทบเชิงบวกที่มีต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียน โดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560

กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ประชากรครู ปีการศึกษา 2559 จำนวน 70 คน และปีการศึกษา 2560 จำนวน 73 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียน ปีการศึกษา 2559 จำนวน 313 คน และปีการศึกษา 2560 จำนวน 310 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองปีการศึกษา 2559 จำนวน 313 คน และปีการศึกษา 2560 จำนวน 310 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 จำนวน 13 คน และกลุ่มตัวอย่างเครือข่ายชุมชุนปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม จำนวน 5 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.96-0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Window

ผลการวิจัยพบว่า

1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560 ตามความคิดเห็นของครูและนักเรียน ปีการศึกษา 2559 โดยรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ปีการศึกษา 2560 โดยรวมทั้งสองกลุ่มมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน

2) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียน โดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560 ตามความคิดเห็นของ ครู ปีการศึกษา 2559 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ปีการศึกษา 2560 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน

3) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียนโดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560ตามความคิดเห็นของ ผู้ปกครองคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2559 โดยรวมทั้งสองกลุ่ม

ที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ปีการศึกษา 2560 โดยรวมทั้งสองกลุ่มมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน

4) ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจ ที่มีผลต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียน โดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2559-2560 ปีการศึกษา 2559 โดยรวมทุกกลุ่มการประเมินมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ปีการศึกษา 2560 โดยรวมทุกกลุ่มการประเมินมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน

5) ผลกระทบเชิงบวกที่มีต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียน โดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560 ส่งผลให้โรงเรียนกันตังพิทยากร ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากองค์กร และหน่วยงานทางการศึกษา ระดับชาติ 18 รางวัล และระดับเขตพื้นที่การศึกษา 1 รางวัล ผู้อำนวยการได้รับรางวัลระดับประเทศ 3 รางวัล นักเรียนได้รับรางวัลระดับประเทศ 2 รางวัล ระดับภาค 34 รางวัล ระดับจังหวัด 4 รางวัล โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ ของหน่วยงานทางการศึกษา ผู้ปกครองและชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน

ข้อเสนอแนะ

จากการวิจัยการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียน โดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560 ครั้งนี้ทำให้ค้นพบจุดเด่นคือ จุดเด่นด้านองค์ความรู้และจุดเด่นด้านการเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนต่อไป

1. ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปใช้

1.1 ด้านองค์ความรู้ สถานศึกษาควรให้ความรู้ทำและทำความเข้าใจกับครู นักเรียน ผู้ปกครอง เครือข่ายชุมชน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ถึงพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามของนักเรียน โดยใช้ KANTANGPIT MODEL โรงเรียนกันตังพิทยากร ปีการศึกษา 2559-2560 ตลอดจนความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างความเป็นเป็นพลเมือง อีกทั้งบทบาทและภาระของทุกภาคส่วนที่จะต้อง มีส่วนร่วมอันได้แก่ ผู้ปกครอง เครือข่ายชุมชน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต้องเข้ามาสนับสนุนในด้านการเลี้ยงดูบุตรหลานแบบประชาธิปไตย สนับสนุนกิจกรรมการปฏิบัติงาน ปฏิบัติตนของนักเรียนที่แสดงออกถึงความเป็นพลเมืองดีตามจุดเน้นความเป็นไทย ความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความปรองดอง สมานฉันท์ และความมีวินัยในตนเองสนับสนุนการพัฒนาสื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนทั้งภายนอกและภายในอาคารเรียน ภายในห้องเรียน สร้างบรรยากาศสิ่งแวดล้อม

1.2 ด้านการเป็นแบบอย่างที่ดีในส่วนของครูจะต้องเป็นครูต้นแบบเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียนทั้งด้านการวางตนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยบูรณาการการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้และการปฏิบัติตนจริงในชุมชนและประเมินผลตามสภาพจริง เพื่อให้นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม

ผู้บริหารจะต้องสนับสนุนส่งเสริมในการพัฒนาสื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนทั้งภายนอกและภายในอาคารเรียน ภายในห้องเรียน สร้างบรรยากาศสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมกิจกรรมนักเรียนเช่นกิจกรรมสภานักเรียน นักเรียนต้นแบบ และแสวงหาความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆที่จะมาสนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนซึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะต้องนำผลการวิจัยมาใช้เป็นฐานในการพัฒนา

1.3 หลังการพัฒนาโรงเรียนควรมีการตรวจสอบพฤติกรรม/คุณลักษณะความมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อดูแนวโน้มความยั่งยืนหรือความคงทนถาวรของความมีคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนและ ทบทวนกิจกรรมต่างๆเพื่อปรับปรุงพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆของโรงเรียน เช่น การกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย เอกลักษณ์ของโรงเรียน อัตลักษณ์ของผู้เรียน การเปลี่ยนแปลงของครู การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนและการเปลี่ยนแปลงของชุมชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายแห่งรัฐ อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง

2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามอย่างยั่งยืน

2.2 ควรพัฒนารูปแบบหรือกลยุทธ์การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามในลักษณะอื่น

โพสต์โดย ํYUPA : [17 มิ.ย. 2562 เวลา 07:31 น.]
อ่าน [67698] ไอพี : 116.58.241.55
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,574 ครั้ง
เย็นกายเย็นใจเมื่อตั้งครรภ์
เย็นกายเย็นใจเมื่อตั้งครรภ์

เปิดอ่าน 16,001 ครั้ง
ถั่วพร้า
ถั่วพร้า

เปิดอ่าน 461,147 ครั้ง
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน

เปิดอ่าน 1,685 ครั้ง
การทำ SEO ทำยังไงให้ติดหน้าแรก Google กลยุทธ์ทางการตลาดที่หลายธุรกิจเลือกใช้
การทำ SEO ทำยังไงให้ติดหน้าแรก Google กลยุทธ์ทางการตลาดที่หลายธุรกิจเลือกใช้

เปิดอ่าน 17,089 ครั้ง
เกร็ดควรรู้สำหรับผู้ที่จะสมัครสอบบรรจุครูผู้ช่วย
เกร็ดควรรู้สำหรับผู้ที่จะสมัครสอบบรรจุครูผู้ช่วย

เปิดอ่าน 11,236 ครั้ง
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้

เปิดอ่าน 102,889 ครั้ง
สนามไฟฟ้า (electric field)
สนามไฟฟ้า (electric field)

เปิดอ่าน 26,541 ครั้ง
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558

เปิดอ่าน 19,443 ครั้ง
เทศกาล ไหว้พระจันทร์
เทศกาล ไหว้พระจันทร์

เปิดอ่าน 39,959 ครั้ง
ผลึกความรู้นิทรรศการวันครูสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา : เดชาพัชร  สมหมาย
ผลึกความรู้นิทรรศการวันครูสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา : เดชาพัชร สมหมาย

เปิดอ่าน 23,351 ครั้ง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง

เปิดอ่าน 19,540 ครั้ง
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551

เปิดอ่าน 10,998 ครั้ง
เข้าใจธรรมชาติของเด็ก มิติใหม่ครูไทยยุคดิจิตอล
เข้าใจธรรมชาติของเด็ก มิติใหม่ครูไทยยุคดิจิตอล

เปิดอ่าน 16,466 ครั้ง
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน

เปิดอ่าน 17,919 ครั้ง
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ

เปิดอ่าน 17,746 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
เปิดอ่าน 11,207 ครั้ง
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส
เปิดอ่าน 60,704 ครั้ง
ความแตกต่างของการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนกับการวิจัยเชิงวิชาการ
ความแตกต่างของการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนกับการวิจัยเชิงวิชาการ
เปิดอ่าน 49,205 ครั้ง
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
เปิดอ่าน 17,633 ครั้ง
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ