|
|
การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ครูผู้สอนต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ตรงกับจุดมุ่งหมายของการสอนจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกคนยึดหลักว่าผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้พัฒนาตนเองได้การพัฒนารูปแบบการสอนจึงเป็นวิธีการสร้างเครื่องมือที่จะช่วยพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบการวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคติวิซึมที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อประเมินผลรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติการกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์จำนวน5คนและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่5/1โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ สังกัดเทศบาลเมืองปัตตานีจำนวน30คนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสัมภาษณ์แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคติวิซึมที่ส่งเสริมทักษะการคิดสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดทักษะการคิดที่เป็นแกนและแบบวัดเจตคติเชิงวิทยาศาสตร์ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed-method Methodology)2 ขั้นตอนคือขั้นตอนที่ 1 สร้างและพัฒนารูปแบบการสอนโดยการสังเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ขั้นตอนที่ 2 ประเมินรูปแบบการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญและทดลองใช้ในสถานการณ์จริงหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนตามเกณฑ์80/80หาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะการคิดของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนและศึกษาเจตคติเชิงวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนสถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานร้อยละและ t-test (DependentSamples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. รูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคติวิซึมที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มี 5 องค์ประกอบคือ 1) หลักการของรูปแบบการสอน2) จุดประสงค์ 3) สาระและเนื้อหา 4) กิจกรรมและขั้นตอนการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิซึมแบบ PEPCEE มี 6 ขั้นดังนี้ขั้นเตรียมความพร้อมของผู้เรียน (Preparation) ขั้นดึงความคิดเพื่อระบุคำถามหรือความรู้ใหม่ที่ต้องการ (Engagement) ขั้นกำหนดแนวทางและปฏิบัติในการสร้างความรู้ใหม่ (Practice) ขั้นสรุปประเด็นโครงสร้างใหม่ทางปัญญาด้วยตนเอง (Conclusion) ขั้นขยายโครงสร้างทางปัญญาหรือความรู้ใหม่ (Elaboration) และขั้นนำความรู้ใหม่ไปใช้ (Extension)และ 5) การวัดและประเมินผล
2. รูปแบบการสอนเชิงทฤษฏีมีความเหมาะสมและความสอดคล้องขององค์ประกอบอยู่ในระดับมากและแผนการเรียนรู้ที่พัฒนาตามรูปแบบการสอนมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด
3. ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนเท่ากับ87.92/83.61และมีดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนเท่ากับ .74นอกจากนี้นักเรียนมีทักษะการคิดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีเจตคติเชิงวิทยาศาสตร์หลังเรียนอยู่ในระดับมากโดยสรุปรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคติวิซึมที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นจากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสมนักเรียนมีทักษะการคิดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนและนักเรียนมีเจตคติเชิงวิทยาศาสตร์ในระดับมากจึงควรสนับสนุนให้ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์นำรูปแบบการสอนนี้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะการคิดที่จำเป็นต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและเป็นพื้นฐานทักษะการคิดขั้นสูงต่อไป
|
โพสต์โดย rose_na : [15 มิ.ย. 2562 เวลา 11:39 น.] อ่าน [4816] ไอพี : 171.7.246.2
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 59,118 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,424 ครั้ง
| เปิดอ่าน 73,252 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,936 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,396 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,805 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,495 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,184 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,499 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,642 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,590 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,745 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,279 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,158 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,216 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 12,744 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,339 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,166 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,981 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,889 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|