ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๓ (โศภนพิทยาคุณานุสรณ์) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๓

(โศภนพิทยาคุณานุสรณ์) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ผู้รายงาน : นายนิโรธ วิชาธิคุณ

ปีที่รายงาน 2562

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๓ (โศภนพิทยาคุณานุสรณ์) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน 1) ด้านสภาวะแวดล้อม 2) ด้านปัจจัยนำเข้า 3) ด้านกระบวนการ และ 4) ด้านผลผลิตของโครงการ โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูลในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน

ผลการประเมินพบว่า

1. ด้านสภาวะแวดล้อม พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากทุกข้อ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับสภาพปัญหาของนักเรียน รองลงมาคือ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของสำนักการศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่

2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากทุกข้อ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ บุคลากรที่จัดโครงการ มีความรู้ในเรื่องการจัดกิจกรรม รองลงมา คือ ความสะดวกด้านการใช้สื่อ วัสดุ อุปกรณ์และเทคโนโลยีเร้าความสนใจแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

3. ด้านกระบวนการ พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ และที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ รองลงมาคือ ผู้รับผิดชอบโครงการรายงานผลการดำเนินโครงการเสนอผู้บริหาร

4. ด้านผลผลิต สรุปผลการประเมิน ดังนี้

4.1 ผลการประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๓ (โศภนพิทยาคุณานุสรณ์) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเรียงลำดับกิจกรรมจากมากไปหาน้อย

4.1.1 กิจกรรมอ่านบทเพลงสู่งานเขียน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ การนำบทเพลงที่ชื่นชอบมาอ่านให้เพื่อนฟัง

4.1.2 กิจกรรมส่งเสริมทักษะการอ่าน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ นักเรียน มีนิสัยรักการอ่านดีขึ้น

4.1.3 กิจกรรมวางจากงานอ่านทุกคน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ใช้เวลาว่างในการอ่าน

4.1.4 กิจกรรมพัฒนาห้องสมุด พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลำดับค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ นักเรียนยืมหนังสือห้องสมุดไปอ่าน รองลงมา คือ ห้องสมุดจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างสม่ำเสมอ และ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ นักเรียนจัดนิทรรศการผลงานจากกิจกรรมการอ่าน

4.1.5 กิจกรรมพี่ช่วยน้องรักการอ่านด้วยหนังสือเล่มเล็ก พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ส่งเสริมการทำงานแบบร่วมมือ

4.2. การประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ให้ความสำคัญของการอ่าน

4.3. การประเมินพฤติกรรมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกข้อ เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด และข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ร่วมกิจกรรมเต็มเวลา

4.4. การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อกิจกรรมการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ความพึงพอใจผลงานของตนเองที่เกิดจากกิจกรรมโครงการ

4.5. การแบบประเมินความพึงพอใจของผู้บริหาร ครูและผู้ปกครองนักเรียนต่อกิจกรรมการส่งเสริมนิสัยรักการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาผลการประเมินเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ปริมาณของกิจกรรมโครงการเหมาะสมไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป

1. ข้อเสนอแนะ

1.1 ด้านบริบทของโครงการ

1.1.1 สถานศึกษาควรปรับเป้าหมายของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้

มีความสอดคล้องกับนโยบาย วิสัยทัศน์และเป้าหมายของสถานศึกษา

1.1.2 ผู้รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องกับโครงการควรปรับเป้าหมายของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้มีความสอดคล้องกับบริบทของชุมชนและความต้องการของนักเรียน

1.2 ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ

1.2.1 สถานศึกษาควรมีการจัดอบรมโดยเชิญวิทยากรมาให้ความรู้แก่ครูและบุคลากรในสถานศึกษาเกี่ยวกับการที่ช่วยส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน

1.2.2 สถานศึกษาควรมีการส่งเสริมและเชิญชวน ให้บุคลากรนอกสถานศึกษา มีส่วนร่วมในการจัดหาหนังสือหรือสื่อต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน เพื่อร่วมกันสร้างความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของการอ่านให้แก่นักเรียน อย่างต่อเนื่อง

1.2.3 สถานศึกษาควรมีการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการ ทั้งจากภายในและภายนอกอย่างเพียงพอและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

1.2.4 สถานศึกษาควรมีการจัดแหล่งเรียนรู้ หนังสือ สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ที่หลากหลายและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในสถานศึกษาที่เอื้อต่อการเรียนรู้

. 1.3 ด้านกระบวนการดำเนินการ

1.3.1 ครูผู้รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องกับโครงการควรมีการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างชัดเจนและเหมาะสมโดยมีนักเรียนแกนนำหรือยุวบรรณารักษ์เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีในการอ่าน

1.3.2 สถานศึกษาควรมีการสำรวจความต้องการในการใช้หนังสือของนักเรียน ครูและบุคลากรในสถานศึกษา เพื่อให้มีหนังสือทั้งที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าและหนังสืออ่านนอกเวลาอย่างเหมาะสมเพียงพอ มีความหลากหลายและน่าสนใจ รวมถึงการส่งเสริมให้นักเรียนนำความรู้ไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ อย่างสร้างสรรค์สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง

1.3.3 ผู้รับชอบโครงการและผู้เกี่ยวข้องควรมีการนำผลการประเมินการดำเนินโครงการมาวางแผนการ เพื่อหาแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประเมินผลการดำเนินโครงการในด้านต่างๆ

1.4 ด้านผลการดำเนินการโครงการ

1.4.1 สถานศึกษาควรมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและดึงดูดความสนใจให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมากขึ้น

1.4.2 สถานศึกษาควรมีการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียนให้ได้รับรางวัลยอดนักอ่านระดับสถานศึกษาตลอดจนพัฒนาให้นักเรียนได้รับรางวัลยอดนักอ่านในระดับสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง

โพสต์โดย นิโรธ : [13 มิ.ย. 2562 เวลา 16:36 น.]
อ่าน [4210] ไอพี : 110.168.57.63
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,176 ครั้ง
10 ข้อดีของฟองน้ำ ที่มากกว่าแค่ใช้ล้างจาน
10 ข้อดีของฟองน้ำ ที่มากกว่าแค่ใช้ล้างจาน

เปิดอ่าน 9,789 ครั้ง
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน

เปิดอ่าน 22,074 ครั้ง
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"

เปิดอ่าน 60,251 ครั้ง
ตารางธาตุ
ตารางธาตุ

เปิดอ่าน 18,788 ครั้ง
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย

เปิดอ่าน 11,841 ครั้ง
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ทำไมเป็นกันมากขึ้น
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ทำไมเป็นกันมากขึ้น

เปิดอ่าน 18,762 ครั้ง
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์

เปิดอ่าน 3,245 ครั้ง
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"

เปิดอ่าน 23,649 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง

เปิดอ่าน 9,404 ครั้ง
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด

เปิดอ่าน 117,026 ครั้ง
ประวัติของแคน อัครเครื่องดนตรีอีสาน
ประวัติของแคน อัครเครื่องดนตรีอีสาน

เปิดอ่าน 19,716 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"

เปิดอ่าน 197,374 ครั้ง
บทบาทของครู
บทบาทของครู

เปิดอ่าน 31,735 ครั้ง
ชาวเน็ตชื่นชม ! พันตรีสุธี สุขสากล คัดลายมือไทยสวยงามมากๆ
ชาวเน็ตชื่นชม ! พันตรีสุธี สุขสากล คัดลายมือไทยสวยงามมากๆ

เปิดอ่าน 31,959 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ

เปิดอ่าน 14,555 ครั้ง
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
เปิดอ่าน 11,380 ครั้ง
มหัศจรรย์สมุนไพรไทยต้านโรคคนเมือง
มหัศจรรย์สมุนไพรไทยต้านโรคคนเมือง
เปิดอ่าน 10,634 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
เปิดอ่าน 15,650 ครั้ง
แตงกวามีดีกว่าที่คุณคิด
แตงกวามีดีกว่าที่คุณคิด
เปิดอ่าน 87,873 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ