บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวมลียานี เจะอารง
ปีการศึกษา 2560
รายงานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านกำปงตาโก๊ะ) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วย ในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ จำนวน 10 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขึ้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จำนวน 10 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานการเปรียบเทียบความแตกต่างใช้ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.46/82.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
เท่ากับ 0.7003 คิดเป็นร้อยละ 70.03
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด