บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวราตรี ช่วยสุด ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลวัดนางลาด สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย : 2560
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1)เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะร่วมกับ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้การใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3)เพื่อประเมินทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน จากการใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล วัดนางลาด อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 25 คน ได้มาได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดฝึกทักษะร่วมกับ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด 2)แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน เวลาเรียน 24 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบมาตราส่วนประมาณค่า จำนวน 1 ฉบับ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบมาตราส่วนประมาณค่า ชนิด 5 ระดับของลิเคิร์ท จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ(t test Dependence Samples)
ข
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 81.75/80.33
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยค่า t ที่ได้จากการคำนวณมีค่าเท่ากับ 74.33 มากกว่าค่า t ที่ได้จากการเปิดตาราง (.01 t19=2.5395)
3. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน จากการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะร่วมกับการจัด การเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ 5E เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.54 โดยมีความพึงพอใจข้อ 10 นักเรียนได้รับประโยชน์จากการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะ อยู่ในลำดับสูงที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.86 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.43 รองลงมา คือ ข้อ 6 นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ โดยใช้ชุดฝึกทักษะ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.53 และข้อ 8 วิธีการวัดและประเมินผลในชุดฝึกทักษะ มีความเหมาะสมค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.46 เป็นลำดับสุดท้าย