การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนโดยกิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จำนวน 32 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 6 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง 2) เอกสารประกอบ การเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 ดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบค่า t
ผลการวิจัยพบว่า
1. กิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.97/82.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีค่าเท่ากับ 0.5346 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.5346 หรือคิดเป็นร้อยละ 53.46
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยกิจกรรมการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาศาสนาและวัฒนธรรม 5 เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.41