ชื่อเรื่อง : การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์
รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิตของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
สาขาวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน
ผู้วิจัย : นายลัทธวัฒน์ แสงภา
ปีการศึกษา : 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางาน
ปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิตของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาวิชาช่างยนต์วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80(2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103
โดยใช้การสาธิตของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาวิชาช่างยนต์วิทยาลัยการอาชีพ
สว่างแดนดิน(3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ก่อนเรียนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิต สาขาวิชาช่างยนต์วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน (4) ประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิตของ
นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาวิชาช่างยนต์วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน (5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิต สาขาวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.3) สาขาวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ลงทะเบียนเรียน วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560จำนวน 32 คน โดยการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการเลือกเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิต จำนวน 12 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ได้แก่แบบทดสอบระหว่างเรียนและหลังเรียน จำนวน 120 ข้อเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก มีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.31-0.78 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.25-0.88และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 60 ข้อมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .94 (3) แบบประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิต จำนวน 40 ข้อ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิต จำนวน 30 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .71 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา
2101-2103 โดยใช้การสาธิต ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน จากแบบทดสอบระหว่างเรียนทั้งหมด (E1) และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) หลังเรียน จะมีค่า E1/E2 ที่ระดับ 83.42/91.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิตมีค่าดัชนีประสิทธิผลในการเรียนรู้ (E.I.) โดยรวม เท่ากับ 0.9139 แสดงว่า นักเรียน มีความรู้เพิ่มขึ้น เท่ากับ 0.9139 หรือคิดเป็นร้อยละ 91.39
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิต มีคะแนนสูงขึ้น และจากการทดสอบค่าที (t-test) พบว่า คะแนนทดสอบก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ( =48.36, S.D.=2.16) และคะแนนทดสอบหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ( =102.30, S.D.=2.74) แสดงว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4) คุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิตโดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมาก ( =4.55, S.D.=0.14)
5) ความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิชางานปรับอากาศรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2103 โดยใช้การสาธิต โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.57, S.D.=0.16)
คำสำคัญ : แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ การสาธิต