ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน
โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561
ผู้รายงาน : นางสาวพัชรี ขวัญศรี
รองผู้อำนวยการโรงเรียนวังวิเศษ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13
ปีที่รายงาน : 2561
บทสรุปผู้บริหาร
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า ประเมินด้านกระบวนการ และประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วยคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 พฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 สมรรถนะสำคัญของนักเรียนโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 และความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย กลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 265 คน ครู จำนวน 46 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองจำนวน 265 คน และกลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 6 ฉบับ แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษาตามสภาพจริง จำนวน 1 ฉบับ และแบบบันทึกผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียน จำนวน 1 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 8 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับระหว่าง 0.966-0.982
ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นว่าด้านสภาพแวดล้อมโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( = 4.07, S.D. = .67) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน และรองลงมาคือ กลุ่มครู มีความคิดเห็นว่าด้านสภาพแวดล้อมโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( = 3.85, S.D. = .65) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 3.70, S.D. = .61) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านวัสดุอุปกรณ์และอาคารสถานที่ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในระดับมาก ( = 3.71, S.D. = .66) รองลงมา คือ งบประมาณ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 3.67, S.D. = .61) ส่วนด้านการบริหารจัดการและด้านหน่วยงานที่สนับสนุน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 3.63, S.D. = .64) ทุกด้านผ่านเกณฑ์การประเมิน
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครอง มีความคิดเห็นว่าด้านกระบวนการของโครงการ มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( =3.95 , S.D. = .46) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมา คือ กลุ่มนักเรียน มีความคิดเห็นว่าด้านกระบวนการของโครงการ มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( =3.78 , S.D. = .64) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน ส่วนกลุ่มครู มีความคิดเห็นว่าด้านกระบวนการของโครงการ มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมต่ำสุด ( =3.69 , S.D. = .58) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครองหลังเสร็จสิ้นโครงการ จำแนกตามตัวชี้วัด พบว่า
4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครอง มีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( =3.80 , S.D. = .71) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมา คือ กลุ่มนักเรียน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียน วังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( =3.76 , S.D. = .67) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน และค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กลุ่มครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นกัน มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( =3.75 , S.D. = .64) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน
4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ตามความคิดเห็นของครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( =3.73 , S.D. = .69) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน รองลงมา คือ กลุ่มผู้ปกครอง มีความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( =3.60 , S.D. = .58) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน
4.3 ผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561
ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตามหลักสูตรสถานศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2560-2561 โดยภาพรวม ปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2560 ร้อยละ 3.33 ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ประเด็นการประเมิน
4.4 สมรรถนะสำคัญของนักเรียนโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ผลการวิเคราะห์ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียนตามหลักสูตร โรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2560-2561 โดยภาพรวม ปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไปสูงกว่าปีการศึกษา 2560 ร้อยละ 26.01 ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ประเด็นการประเมิน
4.5 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ โรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( =4.08 , S.D. = .75) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน รองลงมา คือ กลุ่มผู้ปกครอง มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะโรงเรียนวังวิเศษ ปีการศึกษา 2561 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( =3.68 , S.D. = .68) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากเช่นกัน ( =3.53 , S.D. = .72) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้
1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา เพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน
2. โรงเรียนควรจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนอย่างหลากหลาย ทันสมัยและตรงกับความสนใจของนักเรียน โดยจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมสาระสำคัญของกิจกรรมสร้างสรรค์ทั้ง 4 ลักษณะ ได้แก่ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เน้นทักษะการอ่าน กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เน้นการเผยแพร่ข่าวสาร กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เน้นการแก้ไขและพัฒนา และกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เน้นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
3. ผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของโครงการและควรยกย่องเชิดชูเกียรติ ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ ชื่อเสียงผลงานของบุคคล กลุ่มบุคคล หน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนโครงการ ด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม
ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมินครั้งต่อไป
1. ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ ที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน
2. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะ ตามสภาพบริบทของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาดำเนินงานตามโครงการต่อไป
3. ควรมีการศึกษาการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 4 ลักษณะในเชิงคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป