ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลา
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เทคนิค TGT
ผู้วิจัย นางจุรีรัตน์ จัดนอก
โรงเรียน บัวใหญ่ ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลา โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 ที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 5 รหัสวิชา ค20205 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบัวใหญ่ จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนแต่ละห้องมีความสามารถคละกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลา โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT จำนวน 15 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 30 ข้อ แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลา โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสถิติ t-test ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลาของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 83.56 /81.93
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลาของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลา โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.83 )
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการกำลังสองและพาราโบลาของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT มีประสิทธิภาพเหมาะสม ช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นและนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค TGT จึงควรสนับสนุนให้ครูนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ตามความเหมาะสมต่อไป