ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนบ้านบากเรือ
ผู้วิจัย นางประคอง แก้วจันทร์
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์
งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระหว่างก่อนเรียนและ
หลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ที่มีกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเดียวและมีการทดสอบก่อนและหลังเรียนในรูปแบบที่เรียกว่า One Group Pretest - Posttest Design กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านบากเรือ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง จำนวนนักเรียน 8 คน ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากผู้วิจัยรับผิดชอบจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นนี้และนักเรียนมีห้องเดียว เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 ชุด 2) คู่มือการจัดการเรียนรู้ โดยใช้
ชุดฝึกเสริมทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อ
การเรียนด้วยชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ E1/E2 หาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.67/84.17 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับเรียนด้วยชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละการพัฒนา 20.24
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.54 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.50