ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอน
แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
ชื่อผู้รายงาน ชบาไพร สุระโคตร
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้ชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น วัตถุประสงค์ของการศึกษา เพื่อหาประสิทธิภาพดัชนีประสิทธิผล เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทางการเรียนก่อนและหลัง และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอน แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสุขไพบูลย์วิริยะวิทยา อำเภอเสิงสาง สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 23 คน โดยการสุ่มแบบยกกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น จำนวน 16 แผน 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 4) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละชุดฝึกทักษะ แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 80 ข้อ (ชุดละ 10 ข้อ) 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ ชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ(Rating scale) การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้ค่าสถิติ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) การหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าดัชนีประสิทธิผล (EI) และการทดสอบที (t-test dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 โดยมีค่า E1/E2 = 83.26/81.52 เมื่อแยกรายชุด พบว่า มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ทุกชุด
2. ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีค่าเท่ากับ 0.6786 แสดงว่า ทำให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.86 เมื่อแยกเป็นรายชุด พบว่า ดัชนีประสิทธิผล มีค่าอยู่ระหว่าง 0.6592-0.7153 แสดงว่า ทำให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง ร้อยละ 65.9271.53
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิดอย่าง มีวิจารณญาณด้านหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อแยกเป็นรายชุด พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 ทุกชุด
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ชุดฝึกทักษะส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ความคิด โดยอาศัยความรู้และความเข้าใจมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด