ชื่อเรื่อง รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา นางสาวทัศน์วรรณ ขันทอง
หน่วยงาน โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม ตำบล โนนกลาง อำเภอ พิบูลมังสาหาร
จังหวัด อุบลราชธานี
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่รายงาน 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม ตำบลโนนกลาง อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 24 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้คือ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 9 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.43-0.80 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.21-0.95 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 และ 3) แบบประเมินวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test dependent
ผลการศึกษา พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.12/84.03 สูงกว่าเกณฑ์ 80 / 80ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการเรียนโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ แสดงว่า เมื่อนักเรียนได้ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว นักเรียนมีความรู้และทักษะดีขึ้น สามารถนำความรู้มาทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนได้คะแนนมากกว่าก่อนเรียน ฉะนั้น ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงเป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพใช้ประกอบการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์5 เรื่อง ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก