การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและ ความต้องการในการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลพนา(สามัคคีวิทยา) 2) เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลพนา(สามัคคีวิทยา) 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลพนา(สามัคคีวิทยา) 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลพนา (สามัคคีวิทยา) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินผลครั้งนี้ใช้วิธีการเปิดตารางของ เครซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) ประกอบด้วย ครูโรงเรียนเทศบาลพนา(สามัคคีวิทยา) จำนวน 27 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 144 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 144 คน เครื่องมือที่ใช้ รูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลพนา(สามัคคีวิทยา) แบบประเมิน ความเหมาะสมการกำหนดองค์ประกอบของรูปแบบ แบบสอบถามความเหมาะสมของรูปแบบ แบบทดสอบ เรื่อง การจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชา คู่มือ การอบรม เรื่อง การจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชา แบบประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครู แบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชา แบบประเมินทักษะการดำเนินชีวิตตามหลักศาสตร์พระราชา แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชา แบบประเมินความคิดเห็นของครูที่มีต่อรูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาคุณภาพครูสู่ผู้เรียน และ แบบประเมินความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาคุณภาพครูสู่ผู้เรียนวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t test (dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. การวิจัยพบว่าการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและความต้องการควรกำหนดนโยบายส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ในการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการ หลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน ผลที่ได้จากการพัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถจึงย้อนกลับลงไปสู่ที่ผู้เรียนอย่างแท้จริง
2. รูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลพนา(สามัคคีวิทยา) ใช้รูปแบบ PDAKD Model ประกอบด้วย 1) การวางแผน 2) การพัฒนาความรู้งานวิชาการ 3) การจัด การศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาสู่สถานศึกษา 4) การเผยแพร่ขยายผลลงสู่ผู้เรียน ส่วนการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก การสะท้อนความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญพบว่า การจัดการศึกษาเน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามหลักศาสตร์พระราชา สอดแทรกในทุกวิชา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มุ่งเน้นกิจกรรมการปฏิบัติ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน และสร้างความตระหนักให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชา พร้อมทั้งเป็นแนวทางที่ช่วยในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครู และ การปลูกฝังลงสู่นักเรียนอย่างยั่งยืน
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลัก ศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลพนา (สามัคคีวิทยา) การเปรียบเทียบก่อนและหลังการอบรมมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 7.42 และ 16.47 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบคะแนนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการประเมินผลการทดลองและปรับปรุงรูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลพนา(สามัคคีวิทยา)
1) ประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ครู แบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชา ภาพรวมมีสมรรถนะอยู่ในระดับมาก
2) ทักษะการดำเนินชีวิตตามหลักศาสตร์พระราชา ภาพรวม มีสมรรถนะอยู่ในระดับมาก
3) ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชา ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
4) ประเมินความคิดเห็นของครูที่มีต่อรูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาคุณภาพครูสู่ผู้เรียน ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
5) ประเมินความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการศึกษาแบบ Active Learning บูรณาการหลักศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาคุณภาพครูสู่ผู้เรียน ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก