|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการเรียนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นายชำนาญ ปักโคทะกัง
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การหาร และ 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้นักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนาหม่อโนนลานประชาสรรค์ อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 13 คน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) เครื่องมือที่ใช้แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ จำนวน 17 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดกิจกรรมเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร 3) เครื่องมือประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และสรุปเป็นความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นนำ เป็นขั้นเตรียมความพร้อมของนักเรียน กิจกรรมประกอบด้วย (1) แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ (2) ทบทวนความรู้เดิม เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนระลึกถึงประสบการณ์เดิมเพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ โดยใช้การสนทนา ซักถาม เป็นต้น 2) ขั้นสอน กิจกรรมประกอบด้วย (1) ขั้นเผชิญสถานการณ์ปัญหาและแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล โดยครูเสนอสถานการณ์ปัญหาที่สัมพันธ์กับบทเรียน นักเรียนหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเองแล้วบันทึกวิธีการแก้ปัญหาลงในใบกิจรรมรายบุคคล (2) ขั้นไตร่ตรองระดับกลุ่ม เป็นขั้นที่นักเรียนแต่ละคนเข้ากลุ่มและนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาของตนเองต่อกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นและเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดเป็นวิธีการแก้ปัญหาของกลุ่ม แล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมกลุ่ม (3) ขั้นไตร่ตรองระดับชั้นเรียน เป็นขั้นที่แต่ละกลุ่มเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อทั้งชั้นและแสดงให้เห็นถึงความสมเหตุสมผลของวิธีการแก้ปัญหา นักเรียนทุกคนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสรุปวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด ครูช่วยเสริมวิธีการแก้ปัญหาที่กลุ่มไม่ได้เลือก 3) ขั้นสรุป เป็นขั้นที่นักเรียนและครูร่วมกันสรุปหลักการและกระบวนการแก้ปัญหาในเรื่องที่เรียน ครูช่วยเสริมและเชื่อมโยงความคิด หลักการ และกระบวนการแก้ปัญหาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 4) ขั้นฝึกทักษะ เป็นขั้นที่ให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะที่ครูสร้างขึ้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่หลากหลายคล้ายคลึงกับสถานการณ์เดิม และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 84.87 และมีนักเรียนร้อยละ 84.62 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป
|
โพสต์โดย ae : [16 พ.ค. 2562 เวลา 14:23 น.] อ่าน [4763] ไอพี : 223.24.164.30
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,981 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,933 ครั้ง
| เปิดอ่าน 98,120 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,189 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,674 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,343 ครั้ง
| เปิดอ่าน 90,319 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,354 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,102 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,010 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,200 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,649 ครั้ง
| เปิดอ่าน 135,192 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,744 ครั้ง
| เปิดอ่าน 91,592 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 18,422 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,258 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,448 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,673 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,506 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|