ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก สำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น (เศษผ้าหม้อห้อม)

กิตติกรรมประกาศ

รายงานผลจัดกิจกรรมการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น(เศษผ้าหม้อห้อม) ฉบับนี้สำเร็จได้ด้วยดีด้วยความกรุณาอย่างสูงจาก นายไกรวุฒิ จินันทุยา ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง,นายภาคิน มหาเดชาไชย ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม,นางจุฬาลักษณ์ บัวชุม ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ที่ได้สละเวลาให้คำปรึกษา คำแนะนำข้อคิดตลอดจนชี้แนะแนวทางในการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดีมาโดยตลอดระยะเวลาในการทำดำเนินงาน จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้

ขอขอบพระคุณคณะผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้กรุณาพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องของแผนการจัดประสบการณ์ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น(เศษผ้าหม้อห้อม) แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดประสบการณ์ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น(เศษผ้าหม้อห้อม) แบบประเมินพัฒนาการด้านร่างกายการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย(ก่อน-หลัง) การจัดประสบการณ์และให้คำแนะนำในการปรับปรุงแก้ไขเครื่องมือที่ใช้ในการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในครั้งนี้เป็นอย่างดียิ่ง

ขอขอบพระคุณ คณะครูและนักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ที่ได้ให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้รายงานเป็นอย่างดีในการเก็บข้อมูลและทดลองจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

แสงเดือน สัตยสุนทร

ชื่อเรื่อง การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ใน ท้องถิ่น(เศษผ้าหม้อห้อม)

ผู้รายงาน นางแสงเดือน สัตยสุนทร ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง

ปี พ.ศ. 2561

บทคัดย่อ

การพัฒนานวัตกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัย จำนวน 2 ข้อ ได้แก่ 1.)เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น 2.)เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดเล็กการจัดประสบการณ์ระหว่างก่อน-หลัง จัดกิจกรรม

ศึกษาข้อมูลกับประชากรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง กล่าวคือกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มีจำนวน 10 คน โดยใช้วิธีสุ่มแบบเจาะจงเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ๑)แผนการจัดประสบการณ์ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น ๒)แบบประเมินความเหมาะสมของ แผนการจัดประสบการณ์ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น ๓)แบบประเมินพัฒนาการด้านร่างกาย การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย(ก่อน-หลัง) การจัดประสบการณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ 1.สถิติที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้แก่ 1) IOC 2) ประสิทธิภาพของนวัตกรรม E1

3.สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์การวิจัย ได้แก่ T - test dependent ในการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยก่อน-หลังเรียน

สรุปผล

สรุปผลการพัฒนานวัตกรรม

ผลการพัฒนานวัตกรรมสามารถสรุปได้ดังนี้ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยชุดกิจกรรมสร้างสรรค์ จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น พบว่า มี ค่าเฉลี่ย(X) = 52.08 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D) = 2.778 ในภาพรวมค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับ มากที่สุด และมี E1 = 80.5 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด

อภิปรายผล

การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยใช้สื่อหม้อห้อมสร้างสรรค์ พบว่า มี ค่าเฉลี่ย(X) = 52.08 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D) = 2.778 ในภาพรวมค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับ มากที่สุด และมี E1 = 97.5 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด เพราะการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กมีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยกล้ามเนื้อมัดเล็กเป็นอวัยวะหนึ่งในการประกอบกิจวัตรประจำวันของตนเอง เช่น การใส่–ถอด กระดุม รูดซิป การแปรงฟัน ผูกเชือกรองเท้า งานศิลปะ รวมทั้งการขีดเขียน ถ้าเด็กใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กได้คล่องแคล่วจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ การเล่น และการจัดกิจกรรมศิลปะต่าง ๆ จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เด็กได้พัฒนาความพร้อมทางมือและตามากที่สุดเด็กจะเรียนรู้อย่างสนุกสนาน เด็กจะใช้มือในการหยิบจับวัสดุต่างๆทำให้เข้าใจวิธีการใช้นิ้วจับดินสอได้อย่างถูกวิธี (พัฒนา ชัชพงษ์, 2549 :122)กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาการทำงานที่ประสานสัมพันธ์กันระหว่างการใช้กล้ามเนื้อมือนิ้วมือ และประสาทตา ซึ่งเด็กจะได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อนิ้วมือ ฝ่ามือ ข้อมือ และนิ้วมือ ซึ่งจะส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ มีความแข็งแรง และทำงานได้คล่องตัวขึ้นและมีทักษะในการใช้มือได้อย่างคล่องแคล่วต่อไป

(เลิศ อานันทนะ, 2549 :45-46) กล้ามเนื้อมัดเล็ก เป็นอวัยวะที่สำคัญหนึ่งในการ ได้ประกอบกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง การใส่ถอดกระดุมหลุดซิป การแปรงฟัน ผูกเชือกรองเท้า งานศิลปะรวมทั้งการขีดเขียน เด็กใช้กล้ามเนื้อเล็กได้คล่องแคล่ว จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ เส้นด้านสติปัญญาให้ดีขึ้นเพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กมีส่วนทำให้เด็กได้ใช้มือสำรวจ สังเกตจากการสัมผัสจับต้องในทุกๆกิจกรรม

(อธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล. 2556: 111) ซึ่งการใช้มือเพื่อที่จะจับของเล่นและเรียนรู้ทักษะ ในการช่วยเหลือตนเองเช่นการกินอาหารและแต่งตัว (สมศรี เมฆ ไพบูลย์วัฒนา.2551: 22; อ้างอิงจาก อแวร์เนส. 2003:Online) เป็นการฝึกความพร้อมด้านกล้ามเนื้อมือ นิ้วมือให้แข็งแรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และการฝึกความสัมพันธ์ระหว่างตากับมือจะช่วยให้เด็กออกกำลังและพร้อมที่จะใช้ในการเขียน

(พูนสุข บุณย์สวัสดิ์.2554: 41) เด็กจะสามารถเขียนสิ่งใดก็ต่อเมื่อมีความสมารถในการใช้กล้ามเนื้อมือและสายตาประสานสัมพันธ์กันได้ดี

(เยาวพา เดชะคุปต์.2558:123) ซึ่งจะทำให้การควบคุมและการประสานงานกันของกล้ามเนื้อมัดเล็กกับสายตามีความสัมพันธ์กับพัฒนาการของการรับรู้ และสติปัญญาของเด็กปฐมวัย

(กุลยา ตันติผลาชีวะ.2552:64) พัฒนา ชัชพงศ์ (2551:122) กล่าวถึงความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กไว้คือการพัฒนากล้ามเนื้อนิ้วมือให้แข็งแรง เด็กก็พร้อมที่จะลากลีลามือ ซึ่งเป็นพื้นฐานการของการเขียน

เกียรติวรรณ อมาตยกุล (2559:9) กล่าวถึงความสำคัญของความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กไว้ดังนี้มือของคนเราคือฐานของสมองผู้ที่ได้รับการบริหารมือมาตั้งแต่เด็กๆ จะเป็นผู้ที่มีสมองดีมีความคิดฉับไว การฝึกฝนความคล่องแคล่วว่องไวของการใช้กล้ามเนื้อนิ้วมือมีความสัมพันธ์อย่างมากกับความคิดอันฉับไวขอเด็ก ในทางตรงกันข้ามเด็กที่ไม่มีความสามารถเคลื่อนไหวนิ้วมือได้คล่องแคล่วมักจะคิดอะไรชาไปด้วย

จรัล คำภารัตน์ (2551:14) กล่าวถึง ความสำคัญของความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กไว้ดังนี้คือ ในขณะที่เด็กกำลังลากเส้นในลักษณะขีดเขี่ยไปมานั้นสมองของเด็กได้จินตนาการที่ไร้ขอบเขต และทำให้กล้ามเนื้อประสาทตามีความสัมพันธ์กัน

ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2551:101-102) ได้กล่าวถึงความสำคัญของความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กไว้ว่ามิได้หมายถึงเพียงการเขียนตัวอักษรตามความหมายของผู้ใหญ่แต่การเขียนของเด็กอนุบาลเพียงการขีดเขียนไปมาก็เป็นการเขียนในขั้นเริ่มต้นแล้ว ซึ่งประโยชน์ของการเขียนก็เพื่อสื่อความและแสดงออกถึงความคิดเห็นเป็นสื่อในการแสดงออกที่ตามองเห็นโดยต้องใช้ความสัมพันธ์ระหว่างตากับมือในการบังคับควบคุมการทำงานจากการศึกษาความสำคัญของความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก สรุปได้ว่าความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเด็กเล็กเป็นอย่างมากและเป็นอวัยวะที่สำคัญ ในการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมือ นิ้วมือ แขนทำงานร่วมกันกับกล้ามเนื้อตาให้ประสานงานกันอย่างลงตัว และทำให้เด็กสามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว การบริหารกล้ามเนื้อมือกับตาบ่อยๆจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาสมองที่ดีตามไปด้วย ตลอดจนการขีดเขียนของเด็กต่อไป

การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยใช้สื่อหม้อห้อมสร้างสรรค์พบว่าหลังการใช้กิจกรรมสื่อหม้อห้อมสร้างสรรค์ เด็กมีพัฒนาการในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กสูงขึ้น โดยมีคะแนนพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็กแตกต่างกันโดยมีคะแนนหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองทุกคน

ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการพัฒนานวัตกรรมไปใช้

1. ครูผู้สอนควรศึกษาชุดกิจกรรมการสร้างสรรค์สื่อให้เข้าใจ และชัดเจนเพื่อจะได้สามารถใช้จัด กิจกรรมให้กับเด็กได้อย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านความพร้อมในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น

2. ขั้นตอนการจัดกิจกรรมสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับเวลาและความสามารถของเด็ก

3. ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้ทำกิจกรรมอย่างอิสระตามจินตนาการของตนเอง และควรเปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระตามความสนใจที่เด็กต้องการ

4. ควรนำแนวทางการจัดกิจกรรมการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กปฐมวัย โดยใช้สื่อหม้อห้อมสร้างสรรค์ ไปประยุกต์ใช้ร่วมกับแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัยแบบปกติเพื่อให้การจัดกิจกรรมมีความน่าสนใจมากขึ้น

ข้อเสนอแนะสำหรับผลการพัฒนานวัตกรรมครั้งต่อไป

1. ในการทำการกิจกรรม โดยใช้สื่อหม้อห้อมสร้างสรรค์ ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดกิจกรรมที่เด็กอยากลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

2. ครูควรให้เด็กมีส่วนร่วมในการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ที่สามารถหาได้มาใช้ในการทำกิจกรรมสื่อหม้อห้อมสร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม

3. ครูควรเปิดโอกาสให้เด็กในกลุ่มทดลองได้ทำกิจกรรมสื่อหม้อห้อมสร้างสรรค์อย่างอิสระ และไม่ควรจำกัดเวลาในการทำวิจัย

โพสต์โดย บี : [9 พ.ค. 2562 เวลา 10:56 น.]
อ่าน [5454] ไอพี : 118.174.117.164
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 3,133 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง

เปิดอ่าน 115,547 ครั้ง
แผนภูมิแสดงขั้นตอนการประเมินครูผู้ช่วย
แผนภูมิแสดงขั้นตอนการประเมินครูผู้ช่วย

เปิดอ่าน 17,952 ครั้ง
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

เปิดอ่าน 9,221 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ไปทางไหน ?
ปฏิรูปการศึกษาไทย ไปทางไหน ?

เปิดอ่าน 9,467 ครั้ง
40 ปี มนุษย์เหยียบจันทร์ กับความฝันสำรวจจักรวาล
40 ปี มนุษย์เหยียบจันทร์ กับความฝันสำรวจจักรวาล

เปิดอ่าน 8,753 ครั้ง
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย

เปิดอ่าน 77,547 ครั้ง
ทำไมมีจุดแดงบนหน้าผากสตรีอินเดีย
ทำไมมีจุดแดงบนหน้าผากสตรีอินเดีย

เปิดอ่าน 30,183 ครั้ง
วิธีหลอกให้ "กบ" ผสมพันธุ์นอกฤดู ไอเดียคุณครูเรานี่เอง
วิธีหลอกให้ "กบ" ผสมพันธุ์นอกฤดู ไอเดียคุณครูเรานี่เอง

เปิดอ่าน 7,564 ครั้ง
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน

เปิดอ่าน 47,850 ครั้ง
100 สุภาษิตกฎหมาย
100 สุภาษิตกฎหมาย

เปิดอ่าน 36,547 ครั้ง
หยุด การศึกษาที่สร้างทุกข์ให้นักเรียน และผู้ปกครอง
หยุด การศึกษาที่สร้างทุกข์ให้นักเรียน และผู้ปกครอง

เปิดอ่าน 9,217 ครั้ง
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

เปิดอ่าน 15,180 ครั้ง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง

เปิดอ่าน 53,187 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท

เปิดอ่าน 23,748 ครั้ง
เทรนด์ใหม่ แต่บ้านสวยด้วย wall stickers
เทรนด์ใหม่ แต่บ้านสวยด้วย wall stickers

เปิดอ่าน 24,786 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
เปิดอ่าน 19,856 ครั้ง
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มรดกวัฒนธรรม
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มรดกวัฒนธรรม
เปิดอ่าน 17,348 ครั้ง
กำแพงกั้นเสียง
กำแพงกั้นเสียง
เปิดอ่าน 37,035 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา (การเบิกค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม)
รับชมย้อนหลัง ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา (การเบิกค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม)
เปิดอ่าน 11,557 ครั้ง
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ