ชื่อเรื่อง : รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย : นางสาวธนสร บุตรแก่นทราย
ปีที่วิจัย : 2561
บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4 โรงเรียน เทศบาลคำตากล้า สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลคำตากล้า อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2561 จานวน 31 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster RandomSampling) และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test for dependent samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.65/81.08 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ 75/75
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 0.6123 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.23
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลข
แสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
การเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวเลขแสนสนุก สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar=3.74) เมื่อพิจาณาเป็นรายด้าน พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ด้านที่อยู่ในระดับมากที่สุด อันดับแรก คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ( X-bar=4.55) รองลงมา คือ ด้านเนื้อหา ( X-bar=4.54) ด้านสื่อและอุปกรณ์ในการจัดกิจกรรม( X-bar=4.52) และลาดับสุดท้าย คือ ด้านการวัดผลประเมินผล (X-bar=4.51) ตามลำดับ