ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญด้วยการทำแผนผัง
ความคิดโดยใช้แบบฝึก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
วิจัย นางสาวกันญา สิงห์สุขา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนเวียงสะอาดพิทยาคม
อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สังกัดสำนักการศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม กระทรวงมหาดไทย
ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
การอ่านจับใจความ เป็นทักษะการอ่านเพื่อทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง เป็นการอ่านเพื่อต้องการทราบว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรมีความสำคัญตรงไหนและมีความหมายว่าอย่างไร ซึ่งเป็นทักษะการอ่านที่มีความจำเป็นและความสำคัญมากในปัจจุบัน ที่มีการอ่านและการรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีทางเลือกที่หลากหลาย จึงเป็นความการอ่านที่ควรได้รับการปลูกฝังและส่งเสริมให้เกิดในเด็กและเยาวชนเพื่อที่จะให้เขาได้หลักคิดในการเลือกอ่านหนังสือที่ดีและเป็นประโยชน์ เป็นความสามารถและทักษะที่นำไปสู่การสร้างความรู้ ความคิด การตัดสินใจแก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญด้วยการทำแผนผังความคิดโดยใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลกิจกรรมการเรียนรู้ และ4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ ทำการศึกษากับกลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเวียงสะอาดพิทยาคม อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สังกัดกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม กระทรวงมหาดไทย จำนวน 33 โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Cluster Random Sampling) ด้วยวิธีจับฉลากโดยมีหน่วยสุ่มเป็นห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะและความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญด้วยการทำแผนผังความคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด ที่มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.85/81.67 แผนการจัดการเรียนรู้ทักษะการอ่านจับใจความสำคัญด้วยผังความคิดโดยใช้แบบฝึก จำนวน 14 แผน ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ( ) 4.76 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นปรนัยชนิดเลือกตอบแบบ 4 ตัวเลือก ที่มีค่าความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.23-0.80 อำนาจจำแนก ( B ) ตั้งแต่ 0.27 ถึง 0.67 จำนวน 30 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น ( rcc) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.7 แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนที่มีค่าความเชื่อมั่นรวมทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษา ปรากฏผล ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญด้วยการทำแผนผังความคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.84/83.43
2. ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญด้วยการทำแผนผังความคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน แต่ละชุด ชุดที่ 1 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7954 ชุดที่ 2 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7921 ชุดที่ 3 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7877 ชุดที่ 4 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7909 ชุดที่ 5 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7670 ชุดที่ 6 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7932 โดยมีค่ามากกว่า 0.50
ทุกชุด
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อด้วยแบบฝึกความสามารถการอ่านจับใจความสำคัญด้วยการทำแผนผังความคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.22) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความ
พึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุด