|
|
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษระหว่างการสอนอ่านโดยใช้กลวิธีสตาร์ท (START) และเทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมายก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (2) เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้กลวิธีสตาร์ท (START) และเทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมายก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนบ้านคลองเต็ง จังหวัดตรัง จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 35 คน โดยให้ได้รับการสอนอ่านโดยใช้กลวิธีสตาร์ท (START) และเทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมาย โดยใช้ประชากรทั้งหมดเป็นกลุ่มตัวอย่าง ใช้เวลาสอน 17 ชั่วโมง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนภูมิความหมายในการสอนอ่าน 5 ประเภท ที่มีค่าความเหมาะสมระหว่าง 4.60-5.00 แผนการจัดการเรียนรู้การสอนอ่านโดยใช้กลวิธีสตาร์ท (START)
และเทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมายกับการสอนอ่านแบบปกติ ที่มีคุณภาพระหว่าง 4.60-4.80 แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านที่มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.20-0.89 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.20-0.53 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 แบบวัดเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษที่มีค่า Alpha Coefficient ของ Cronbach เท่ากับ 0.77 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t test (dependent) วิเคราะห์ความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับการสอนอ่านโดยใช้กลวิธีสตาร์ท (START) และเทคนิคการสร้างแผนภูมิความหมาย มีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษและเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 โดยหลังเรียนมีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษและมีเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษสูงกว่าก่อนเรียน
|
โพสต์โดย เฟิน : [9 เม.ย. 2562 เวลา 14:30 น.] อ่าน [4886] ไอพี : 1.0.166.192
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 22,492 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,737 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,307 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,047 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,322 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,559 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,182 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,407 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,132 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,494 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,624 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,146 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,472 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,965 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,371 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 56,059 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,694 ครั้ง
| เปิดอ่าน 119,235 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,090 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,895 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|