การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
รายวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจประกอบการสอนแบบ SQ4R
โรงเรียนบ้านดู่ จังหวัดศรีสะเกษ
นางเบญจมาศ ตันทอง
ทำวิจัยเมื่อ พ.ศ. 2560- 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจประกอบ การสอนแบบ SQ4R (2) พัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 (3) ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ ประกอบการสอนแบบ SQ4R และ (4) ศึกษาเจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ ประกอบการสอนแบบ SQ4R
การดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน ได้แก่ (1) ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน (2) ขั้นตอนที่ 2 พัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ (3) ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และ (4) ศึกษาเจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ ประกอบการสอนแบบ SQ4R กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านดู่ จังหวัดศรีสะเกษ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 12 ชุด (2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน (3) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ และ (4) แบบวัดเจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานด้วย t test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ผลจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า
1.1 สภาพการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษของครูชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า สอนโดยเน้นทุกทักษะ ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน ปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ สร้างบรรยากาศการสอนโดยใช้เกม หรือแพลง ปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ส่วนการใช้วิธีการสอนที่สอดคล้องกับทักษะภาษาอังกฤษ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด และปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย
1.2 สภาพการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เป็นปัญหา ของครูโดยรวมและมีปัญหามาก ได้แก่ ครูขาดนวัตกรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูขาดความรู้ในการสร้างและพัฒนานวัตกรรม และครูขาดการพัฒนาเทคนิคหรือวิธีการสอนแบบใหม่ ๆ สำหรับปัญหาที่เกิดจากนักเรียนโดยรวมมีปัญหาในระดับมาก ได้แก่ นักเรียนมีพื้นฐานภาษาอังกฤษต่ำมาจากโรงเรียนเดิม นักเรียนขาดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และนักเรียนไม่กล้าแสดงออกในการใช้ภาษาอังกฤษ
1.3 ความต้องการของครูผู้สอนในการแก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีความต้องการมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ ต้องการการอบรมเทคนิคหรือวิธีสอนภาษาอังกฤษ ต้องการพัฒนาเทคนิคการสอนที่สอดคล้องกับทักษะภาษาอังกฤษ (ฟัง พูด อ่าน เขียน) และต้องการการอบรมการสร้างและพัฒนานวัตกรรม โดยมีข้อเสนอแนะ 3 อันดับแรก ได้แก่ โรงเรียนควรสนับสนุนให้ครูอบรมเทคนิคหรือวิธีสอนภาษาอังกฤษ โรงเรียนควรสนับสนุนให้ครูพัฒนาเทคนิคการสอนที่สอดคล้องกับทักษะ และโรงเรียนควรสนับสนุนให้ครูการสร้างและพัฒนานวัตกรรม
1.4 ปัญหาในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน ซึ่งมีความถี่สูง 3 อันดับแรก ได้แก่ นักเรียนไม่ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ นักเรียนเรียนอ่อนและขาดพื้นฐานภาษาอังกฤษ และนักเรียนขาดแบบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับความต้องการในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน ซึ่งมีความถี่สูง 3 อันดับแรก ได้แก่ ต้องการให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ ที่สนุกสนาน เช่น เกม เพลง ต้องการให้ครูใช้สื่อการสอนที่น่าสนใจ เช่น วีดิโอ ซีดีรอม และต้องการ ให้มีหนังสือการ์ตูนเพื่อฝึกอ่านภาษาอังกฤษ
2. ผลจากการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ พบว่า
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.64/82.72 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
3. ผลจากการศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ พบว่า
นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ ประกอบการสอนแบบ SQ4R รายวิชาภาษาอังกฤษ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสูงกว่าก่อนการใช้แบบฝึกทักษะ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลจากการศึกษาเจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ ประกอบการสอนแบบ SQ4R พบว่า
นักเรียนมีเจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษา อังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชาภาษาอังกฤษ ประกอบการสอนแบบ SQ4R โดยรวมอยู่ในระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.20 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.73