ชื่อรายงาน รายงานการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI
ชื่อผู้รายงาน นางสุนิสา วรรัตน์ โรงเรียนแสนสุข ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี
จังหวัดชลบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18
บทคัดย่อ
รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAIกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนทั้งหมด 35 คน จากวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) การศึกษาครั้งนี้
ใช้แบบแผนการศึกษาแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest-Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI จำนวน 7 เล่ม จากการประเมินคุณภาพนวัตกรรม พบว่า ผลการประเมินตรวจสอบความเหมาะสมของนวัตกรรม ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย 4.19 อยู่ในระดับ เหมาะสมมาก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.38 0.80 มีค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.25 0.88 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ 0.79 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t-test แบบ Dependent Sample
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.92/79.62 โดยรวมมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 75/75
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) เท่ากับ 0.763 หรือคิดเป็นร้อยละ 76.30 แสดงว่านักเรียนมีความรู้ความเข้าใจสูงขึ้น และมีความก้าวหน้าทางการเรียน คิดเป็นร้อยละ 76.30
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด