ชื่อเรื่อง รายงานประเมินโครงการนิเทศภายในงานวิชาการโรงเรียนบ้านแพงศรี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1
ชื่อผู้ศึกษา นายปรียวิศว์ คงผดุง ผู้อำนวยการโรงเรียน
ปีการศึกษา พ.ศ. 2562
บทคัดย่อ
รายงานประเมินโครงการนิเทศภายในงานวิชาการโรงเรียนบ้านแพงศรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินโครงการนิเทศภายในงานวิชาการโรงเรียนบ้านแพงศรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ในด้านสภาวะแวดล้อม 2) เพื่อประเมินโครงการนิเทศภายในงานวิชาการโรงเรียนบ้านแพงศรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ในด้านปัจจัย 3) เพื่อประเมินโครงการนิเทศภายในงานวิชาการโรงเรียนบ้านแพงศรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ในด้านกระบวนการ 4) เพื่อประเมินโครงการนิเทศภายในงานวิชาการโรงเรียนบ้านแพงศรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ในด้านผลผลิต ประกอบด้วย กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน การบริหารจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ได้แก่ ครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 11 คน นักเรียนจำนวน 34 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 34 คน รวมกลุ่มตัวอย่างจำนวน 79 คน ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นเองโดยแบบสอบถาม ชุดที่ 1 มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.90 ชุดที่ 2 มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 ชุดที่ 3 มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.84 และชุดที่ 4 มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป คำนวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินโครงการพบว่า
ผลการประเมินโครงการนิเทศภายในงานวิชาการโรงเรียนบ้านแพงศรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า
1. ด้านสภาวะแวดล้อมโดยภาพรวม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายของโครงการ วิธีการดำเนินการและระยะเวลาดำเนินการมีความเหมาะสมสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ โครงการนี้มีความสอดคล้องกับแนวทางนโยบายการพัฒนาของกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นโยบายโรงเรียน อยู่ในระดับมาก ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือโครงการนี้ได้รับการยอมรับจากบุคลากรในโรงเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในระดับมาก
2. ด้านปัจจัยโดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความพร้อมในด้านวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา การบริหารจัดการการดำเนินโครงการมีความคล่องตัว อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ความพร้อมด้านอาคารสถานที่ห้องปฏิบัติงานตามโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
3. ด้านกระบวนการโดยภาพรวม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การกำหนดกิจกรรมโครงการเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของสถานศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ การมีส่วนร่วมในการวางแผนดำเนินงานโครงการเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน อยู่ในระดับมาก ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ การนิเทศ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินโครงการตามขั้นตอนที่กำหนดทุกระยะอยู่ในระดับมาก
4. ด้านผลผลิตโดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า
4.1 ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ครูมีการนำผลการดำเนินการมาปรับปรุงการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ตามที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้และนำผลการประเมินมาพัฒนาผู้เรียน อยู่ในระดับมาก
4.2 ด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านสื่อการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ นักเรียนได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ตามสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพิ่มมากขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ นักเรียนมีความใผ่รู้ใผ่เรียนเพิ่มมากขึ้น อยู่ในระดับมาก
4.3 ด้านการบริหารจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ผู้บริหารมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความสามารถในการติดต่อประสานงานกับทุกฝ่ายทั้งในโรงเรียนและหน่วยงานอื่น อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ผู้บริหารมีการมอบหมายงานให้ผู้ร่วมงานตามความถนัดและมีการกำกับติดตามงานเสมอ อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ผู้บริหารจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานทั้งหน่วยงานและบุคคลอยู่เป็นระยะ อยู่ในระดับมาก
4.4 ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน สามารถสรุปได้ดังนี้
4.4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน จากการผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (O-NET) ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 31.43 ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 36.58 สรุปภาพรวมปีการศึกษา 2561 สูงกว่าปีการศึกษา 2560 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.90
4.4.2 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียน (Reading Test : RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2560 เฉลี่ยรวม 2 สมรรถนะคิดเป็นร้อยละ 92.18 และปีการศึกษา 2561 เฉลี่ยรวม 2 สมรรถนะคิดเป็นร้อยละ 93.50 สรุปภาพรวมปีการศึกษา 2561 สูงกว่าปีการศึกษา 2560 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.32
4.5 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2560 โดยผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 100 ของนักเรียนทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามระดับการประเมินอยู่ในระดับดีเยี่ยม ร้อยละ 70.97 และระดับดี ร้อยละ 29.03