ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ วิชาชุมนุมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
The results of project-based learning to develop Prathomsuksa 3 students creative thinking in Computer Club
ธนพล เฟื่องขจร1, ฐาปนี สีเฉลียว2 , อภิฤดี พุฒลา3
THANAPON FUANGKAJORN1, THAPANEE SEECHALIAO2, APIRUEDEE PHUTLA3
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนที่เรียนในวิชาชุมนุมคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนหลักเมืองมหาสารคาม จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน 2) แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ 3) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่เรียนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล
ผลการวิจัยมีดังนี้
1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.70/81.65 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2) นักเรียนที่เรียนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน มีคะแนนความคิดสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับสถิติ .05
3) นักเรียนที่เรียนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับสถิติ .05
4) นักเรียนที่เรียนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ("X" ̅ = 2.53, S.D. = 0.63)
โดยสรุป ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ วิชาชุมนุมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคุณภาพเหมาะสำหรับนำไปจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนให้สูงขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่วิจัยที่ต้องการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนนำไปประยุกต์ใช้และต่อยอดในห้องเรียนต่อไป
1นิสิตปริญญาตรี สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษาและคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2อาจารย์ ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
3ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนหลักเมืองมหาสารคาม สังกัด สพป.มค.1
1 B.Ed. (Educational Technology and Computer Education) 2 Lecturer, Department of Technology and Education Communication faculty of Education of MahasarakhamUniversity
Abstract
The purposes of this research are 1) to develop the learning lesson plans of project-based learning according to 80/80, 2) to compare students creative thinking before and after learning with project-based learning (CAI) lessons, and 3) to compare the achievement before and after learning with project-based learning, and 4) to study the satisfaction of Prathomsuksa 3 students about project-based learning. The sample is the Prathomsuksa 3 students who attended Computer Club of Lak Muang Maha Sarakham School in the academic year 2561. All 40 were analyzed by stratified random sampling.
Instruments used for data collection are 1) project-based learning lesson plans, 2) creativity evaluation, 3) the achievement tests and 4) the measurement of the satisfaction for project-based learning. The statistics used for data analysis are percentage, mean, standard deviation and performance/effectiveness index.
The research findings are as follows.
1) The effectiveness index of project-based learning lesson plans is 83.70/81.65 which reaches the criteria.
2) Students creative thinking score after learning with project-based learning is higher than the pretest score at the statistical significance level of .05.
3) The result of the achievement test after learning with project-based learning is significantly higher than the pretest score at .05 level.
4) The satisfaction average score is 4.61 which means students satisfy at the highest level ("X" ̅ = 2.53, S.D. = 0.63).
In conclusion, the results of project-based learning to develop Prathomsuksa 3 students creative thinking in Computer Club is effective and suitable for making plans in teaching creative thinking. This model also helps enhance students achievement score. Therefore, this model is appropriate for using in organizing creative thinking activities and modeling other learning activities.