ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อสายวิชาชีพ ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรณีศึกษา วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

ชื่อผลงานวิจัย : ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อสาย วิชาชีพ ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

กรณีศึกษา วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

ผู้วิจัย : นางวาสนา สำราญจิต

ตำแหน่ง : รองผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

วุฒิการศึกษา : ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ศษ.ม.) สาขาวิชาการบริหารการศึกษา

สถานที่ติดต่อ : วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

เลขที่ 999 หมู่ 6 ตำบลด่านขุนทด

อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา 30210

โทรศัพท์ 044-081145

ที่ปรึกษา : ดร. สำเร็จ วงศ์ศักดา

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อสายวิชาชีพ ในสถานศึกษาสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรณีศึกษา วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในวิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ และเพื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในวิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในศึกษาเป็นนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 196 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) ตามสาขาวิชาของนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นแบบมาตราส่วนการประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.82 ซึ่งครอบคลุมตัวแปรเกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคล และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อสายวิชาชีพประกอบด้วย ปัจจัยด้านเหตุผลส่วนตัว ปัจจัยด้านอิทธิพล การชักจูงจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยด้านหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน และปัจจัยด้านภาพลักษณ์ของสถานศึกษา วิธีการดำเนินการวิจัยได้นำแบบสอบถามไปเก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่าง สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของตัวแปรโดยการทดสอบไค-สแควร์ (Chi-square) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. ปัจจัยด้านเหตุผลส่วนตัวในการเลือกเรียนต่อมีความสัมพันธ์กับปัจจัยส่วนบุคคล ประกอบด้วย อายุ การรับทราบข่าวสารการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ อาชีพของผู้ปกครอง และรายได้รวมต่อเดือนของครอบครัวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า อายุของนักเรียนอยู่ระหว่าง 15-18 ปี คิดเป็นร้อยละ 96.43 ซึ่งอยู่ในวัยเรียน ดังนั้นนักเรียน จึงได้รับทราบข่าวสารการรับสมัครเข้าศึกษาต่อจากครูแนะแนว คิดเป็นร้อยละ 62.76 เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ประกอบกับอาชีพของผู้ปกครองของนักเรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร คิดเป็นร้อยละ 55.10 และรับจ้าง/พนักงานบริษัท คิดเป็นร้อยละ 31.63 ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้รวม ต่อเดือนของครอบครัวน้อยคือ รายได้รวมต่อเดือนของครอบครัวต่ำกว่า 10,000 คิดเป็นร้อยละ 33.16 และรายได้รวมต่อเดือนระหว่าง 10,001-15,000 คิดเป็นร้อยละ 39.80 ดังนั้นนักเรียนจึงเลือกเรียนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคตเป็นอันดับแรก เลือกเรียนตามความถนัดและความสนใจ ของตนเอง เลือกเรียนเพราะดูจากผลสัมฤทธิ์ของตนเอง และเลือกเรียนเพราะฐานะทางด้านเศรษฐกิจ ของครอบครัว ตามลำดับ

2. ปัจจัยด้านอิทธิพลการชักจูงจากบุคคลที่เกี่ยวข้องในการเลือกเรียนต่อมีความสัมพันธ์กับปัจจัยส่วนบุคคลประกอบด้วย อายุ เกรดเฉลี่ยจากสถานศึกษาเดิม การรับทราบข่าวสารการรับสมัครเข้าศึกษาต่ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า อายุของนักเรียนอยู่ระหว่าง 15-18 ปี คิดเป็นร้อยละ 96.43 ได้รับทราบข่าวสารการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ จากครูแนะแนว คิดเป็นร้อยละ 62.76 เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ โดยนักเรียนจะมีเกรดเฉลี่ย จากสถานศึกษาเดิมอยู่ระหว่าง 2.01-4.00 คิดเป็นร้อยละ 94.39 ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จึงเลือกเรียนต่อเนื่องจากอิทธิพลการชักจูงจากคำแนะนำของครูแนะแนวเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ เลือกเรียนตามที่ผู้ปกครองแนะนำ เลือกเรียนตามรุ่นพี่ที่จบการศึกษา และเลือกเรียนตามกลุ่มเพื่อนสนิทตามลำดับ

3. ปัจจัยด้านหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนในการเลือกเรียนต่อมีความสัมพันธ์กับปัจจัยส่วนบุคคลประกอบด้วย อายุ การรับทราบข่าวสารการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ อาชีพของผู้ปกครอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า อายุของนักเรียน อยู่ระหว่าง 15-18 ปี คิดเป็นร้อยละ 96.43 ได้รับทราบข่าวสารการรับสมัครเข้าศึกษาต่อจากครู แนะแนว คิดเป็นร้อยละ 62.76 เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ และอาชีพของผู้ปกครองของนักเรียนจะประกอบอาชีพเกษตรกร คิดเป็นร้อยละ 55.10 และรับจ้าง/พนักงานบริษัท คิดเป็นร้อยละ 31.63 ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่จะเลือกเรียนเพราะเมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรแล้ว สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ เลือกเรียนเพราะมีสาขาวิชาให้เลือกเรียนที่ตรงกับความต้องการ เลือกเรียนเพราะหลักสูตรมีมาตรฐานและมีคุณภาพ และเลือกเรียนเพราะสาขาวิชาที่เปิดสอนเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ตามลำดับ

4. ปัจจัยด้านภาพลักษณ์ของสถานศึกษาในการเลือกเรียนต่อมีความสัมพันธ์กับปัจจัยส่วนบุคคลคือ อายุของนักเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า อายุของนักเรียนอยู่ระหว่าง 15-18 ปี คิดเป็นร้อยละ 96.43 ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่จะเลือกเรียนเพราะการคมนาคมสะดวก เลือกเรียนเพราะรูปแบบเครื่องแต่งกาย เลือกเรียนเพราะสภาพแวดล้อม

ที่ดีภายในสถานศึกษา เลือกเรียนเพราะสถานศึกษามีชื่อเสียงด้านจัดการเรียนการสอน เลือกเรียนเพราะมีความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่ สื่อโสตทัศน์ อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการที่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน นักศึกษาและอื่นๆ เลือกเรียนเพราะมีกิจกรรมการหารายได้ระหว่างเรียน และเลือกเรียนเพราะผู้บริหาร ครู และบุคลากรเอาใจใส่ดูแลความประพฤติของนักเรียน นักศึกษาเป็นอย่างดี ตามลำดับประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาในครั้งนี้ ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ งานแนะแนวศึกษาต่อและอาชีพ และแผนกวิชาต่างๆ สามารถนำผลการศึกษานี้มาใช้เป็นแนวทาง ในการพัฒนา ปรับปรุงการบริหารงานและจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนต่อไป

คำสำคัญ : ปัจจัย/การตัดสินใจศึกษาต่อ/วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

โพสต์โดย วาสนา : [25 มี.ค. 2562 เวลา 15:16 น.]
อ่าน [4960] ไอพี : 159.192.96.195
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,616 ครั้ง
ถึงเวลาปฏิวัติการสอน ความท้าทายของครูในศตวรรษที่ 21
ถึงเวลาปฏิวัติการสอน ความท้าทายของครูในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 3,486 ครั้ง
ประโยชน์ของขมิ้นชัน
ประโยชน์ของขมิ้นชัน

เปิดอ่าน 20,051 ครั้ง
ฟักทองญี่ปุ่น
ฟักทองญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 10,940 ครั้ง
เตือนหญิงตั้งครรภ์ "ขาดไอโอดีน" ลูก เสี่ยง ไอคิวต่ำ
เตือนหญิงตั้งครรภ์ "ขาดไอโอดีน" ลูก เสี่ยง ไอคิวต่ำ

เปิดอ่าน 18,541 ครั้ง
มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า
มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า

เปิดอ่าน 18,350 ครั้ง
งดเหล้าเข้าพรรษา ก่อนงด ต้องลดยังไง
งดเหล้าเข้าพรรษา ก่อนงด ต้องลดยังไง

เปิดอ่าน 2,974 ครั้ง
อุตสาหกรรมยุคใหม่ ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง Smart Warehouse
อุตสาหกรรมยุคใหม่ ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง Smart Warehouse

เปิดอ่าน 16,908 ครั้ง
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ

เปิดอ่าน 21,291 ครั้ง
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

เปิดอ่าน 17,725 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 10,191 ครั้ง
วันเด็กปีนี้ ไปเที่ยวไหนดี
วันเด็กปีนี้ ไปเที่ยวไหนดี

เปิดอ่าน 18,197 ครั้ง
เงินเดือนออก..ใช้อย่างไรให้ถึงเดือนหน้า
เงินเดือนออก..ใช้อย่างไรให้ถึงเดือนหน้า

เปิดอ่าน 16,609 ครั้ง
เด็กกับโรคหวัด
เด็กกับโรคหวัด

เปิดอ่าน 10,335 ครั้ง
แปรงสีฟันในท้องตลาด1ใน4ด้อยคุณภาพ
แปรงสีฟันในท้องตลาด1ใน4ด้อยคุณภาพ

เปิดอ่าน 7,179 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7

เปิดอ่าน 21,488 ครั้ง
ออมเงิน..คนเงินเดือนน้อย
ออมเงิน..คนเงินเดือนน้อย
เปิดอ่าน 14,807 ครั้ง
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ
เปิดอ่าน 19,647 ครั้ง
 หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50
หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50
เปิดอ่าน 22,174 ครั้ง
ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์...ตลอดปี 2556
ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์...ตลอดปี 2556
เปิดอ่าน 40,777 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ (ฉบับที่ 2) ปี 2555
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ (ฉบับที่ 2) ปี 2555

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ