การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารและโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ E1/E2 เท่ากับ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารและโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารและโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน
รูปแบบการวิจัย เป็นแบบกึ่งทดลอง ดําเนินการทดลองตามแบบแผนการวิจัย OneGroup Pretest – Posttest Design กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 1 “บุรีราษฎร์ดรุณวิทยา”ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 สังกัดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จำนวน 40 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยสุ่มจากทั้งหมด 5 ห้องเรียน ซึ่งทุกห้องเรียนมีการจัดนักเรียนแต่ละห้องแบบคละความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน ในอัตราส่วนที่เท่าๆ กัน ทั้ง 5 ห้องเรียน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบการคูณ การหาร และโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จำนวน 5 เล่ม แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะจากสูตร E1/E2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห้ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย(x̄) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) และค่าสถิติ t-test แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการแก้โจทย้ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบการคูณ การหาร และโจทย์ปัญหา
การบวก ลบ คูณหารระคน ผลการพิจารณาความเหมาะสมพบว่าความเหมาะสมในองค์ประกอบ
ต่างๆของแบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อหาประสิทธิภาพพบว่า มีประสิทธิภาพ
83.94/82.55 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้แสดงว่าแบบฝึกทักษะที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนา
มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ เหมาะแก่การนำไปใช้แก้ปัญหาการเรียนการสอนให้แก่นักเรียนได้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบการคูณ การหาร และโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบการคูณ การหาร และโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยรวมอยู่ในระดับมาก
ผลการวิจัยดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารและโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ทำให้เกิดการเรียนรู้โดยการฝึกให้นักเรียนได้หาความรู้อย่างเป็นขั้นตอน เกิดทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ทำให้นักเรียนเกิดองค์ความรู้ในเรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหาร และโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น รวมทั้งนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมาก
ครูเก้า นิวารัมย์