|
|
กระบวนการการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ตามรูปแบบการเรียนการสอน SILPA Model เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) รูปแบบวิจัยแบบเชิงทดลอง (Pre Experimented Design) โดยประยุกต์ใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มตัวอย่าง มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (The One Group Pretest Posttest Design) (มาเรียม นิลพันธุ์,2555, หน้า 144) การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถ การสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะก่อนและหลังการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ 1) รูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 2) แบบวัดความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะเพื่อส่งเสริมการรับรู้ ทางศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบ การเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งผู้วิจัยได้แบ่งการดำเนินงานการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา รูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา (Design and Development D & D) การสร้างและ หาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการนำไปใช้ (Implementation : I) การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์ โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เป็นการประเมินผล (Evaluation : E) การประเมินและปรับปรุง แก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) สถิตที่แบบไม่อิสระ (t-test Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า
1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ สรุปได้ว่ารูปแบบ การเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความสอดคล้องกับนโยบายการศึกษาในปัจจุบันเป็นการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน สามารถพัฒนานักเรียนให้เกิดทักษะในตนเอง มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ
2. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ กองการศึกษา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยถ่ายทอดแนวคิดของรูปแบบการเรียน การสอนออกมาในรูปแบบของแผนการจัดการเรียนรู้ทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์ โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามขั้นตอนในการจัดการเรียนการสอนที่มีชื่อว่า SILPA Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นการกระตุ้นความสนใจผู้เรียน ขั้นที่ 2 ขั้นแนะแนวคิดการสร้างสรรค์ ขั้นที่ 3 ขั้นเรียนรู้โดยการปฏิบัติ ขั้นที่ 4 ขั้นนำเสนอผลงานและขั้นที่ 5 ขั้นประเมินและสะท้อนผล จากประเมินความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรูปแบบการเรียน การสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะสำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.70, =0.39) และการหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริม การรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ( ) และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ( ) เท่ากับ 88.84/91.24 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
3. การเปรียบเทียบความสามารถการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะก่อนและหลังการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าผู้เรียน มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลปะหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์โดยใช้ศิลปะเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการรับรู้ทางศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( =4.36, =0.68)
|
โพสต์โดย น้อง : [23 มี.ค. 2562 เวลา 07:32 น.] อ่าน [5809] ไอพี : 1.20.87.68
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 31,217 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,010 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,625 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,242 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,706 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,805 ครั้ง
| เปิดอ่าน 147,017 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,631 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,715 ครั้ง
| เปิดอ่าน 94,307 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,065 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,997 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,205 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,346 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 10,799 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,925 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,781 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,898 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,268 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|