ชื่อเรื่อง รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พลเมืองดีของสังคม โดยใช้เทคนิคจิ๊กซอร์ เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองดีของสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางหนูพิน พินราช
ปี พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พลเมืองดีของสังคม โดยใช้เทคนิคจิ๊กซอร์ เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองดีของสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลไม่น้อยกว่า 0.50 และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พลเมืองดีของสังคม โดยใช้เทคนิคจิ๊กซอร์ เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองดีของสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี 3/2 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 40 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พลเมืองดีของสังคม โดยใช้เทคนิคจิ๊กซอร์ เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองดีของสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคม เรื่อง พลเมืองดีของสังคม เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.45 - 0.80 และค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.24 - 0.69 ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเท่ากับ 0.56
รูปแบบในการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) โดยใช้รูปแบบ Randomized One Group Pretest Posttest Design หนึ่งกลุ่มมีการวัดผลการทดลอง 2 ครั้ง คือการทดสอบก่อนเรียนและทดสอบหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่าง
ผลการศึกษาพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พลเมืองดีของสังคม โดยใช้เทคนิคจิ๊กซอร์
เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองดีของสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.09/80.00 และมีดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.62ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. ผลการทดสอบก่อนเรียนของกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 9.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 1.37 และคะแนนทดสอบหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 16.00 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 1.32 แสดงว่าคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้