เรื่อง ผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้เพื่อ
บูรณาการสู่ความเป็นเลิศของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ
(TAI) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย กฤตนัย ล้ำจุมจัง
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง ผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีจุดประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อการศึกษาสภาพปัญหาในการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาฟิสิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนชุดพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศ
ของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน
ชุดพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
และ 4) เพื่อศึกษาผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้เพื่อบูรณาการ
สู่ความเป็นเลิศของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกมลาไสย ปีการศึกษา 2560 จำนวน 4 ห้องเรียน จำนวน 123 คน ได้มาโดยวิธีการจับสลากเลือกห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 5 จำนวน 6 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน จำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐานใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาสภาพปัญหาในการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาฟิสิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พบว่าการส่งเสริมให้มีการพัฒนาสื่อ เอกสารประกอบการเรียนให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องอยู่ในระดับน้อย ครูมีการจัดทำสื่อในการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสมและหลากหลายอยู่ในระดับน้อย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ทำงานเป็นทีมและได้ลงมือปฏิบัติงานแบบกลุ่มร่วมมืออยู่ในระดับน้อย การวัดและประเมินผลที่หลากหลายวัดและประเมินผลตามสภาพจริงในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับน้อย และเอกสารประกอบการเรียนมีเพียงพอในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครบทุกหน่วยการเรียนรู้ อยู่ในระดับน้อย 2) ผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศของไหลด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รวมทุกด้านมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า เอกสารประกอบการเรียนมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และ 4) ผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน (E1/E2) มีค่าเท่ากับ 82.15/82.07 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่าคะแนนก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 25.48 และคะแนนหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 32.83 คะแนนตามลำดับ คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อบูรณาการสู่ความเป็นเลิศ ของไหล ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (TAI) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รวมทุกด้านมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด