การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดย 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2.2) ศึกษาพัฒนาการความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในช่วงระหว่างเรียน 2.3) ศึกษาความพึงพอใจของ นักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 3) ขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประชากรใช้ในการวิจัยครั้งนี้
เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านมลายูบางกอก) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครยะลา ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
การใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา พบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการและองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำไปใช้
มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน (L : Lesson) ขั้นที่ 2 ศึกษาเรียนรู้ (E : Erudition) ขั้นที่ 3 ฝึกทักษะ (K : Knowledge Training) ขั้นที่ 4 สรุปและประยุกต์ใช้
(Z : Zenith and apply) ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.82/84.42 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า
2.1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิด
เชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมพบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 14.87
2.2 ความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ของนักเรียนที่จัด
การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะ
การประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในช่วงระหว่างเรียนมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น
2.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.72, S.D. = 0.56)
3. การนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดเชิงมโนทัศน์และทักษะ
การประยุกต์ใช้ความรู้ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Lekz Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ไปขยายผลมีประสิทธิภาพ