ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบ
DR-TA(Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม
ชุดพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา เพียรฉวี เปรมดิษฐกุล
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 42 คน ที่ได้จากการสุ่มแบบง่าย(Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยวิธีการสอนแบบDR-TA(Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั้ง 10 ชุด มีประสิทธิภาพในด้านกระบวนการ (E1) และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2)เท่ากับ 80.02/81.91 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ตามที่ได้กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.4888 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความก้าวหน้าทางการเรียนและนักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.88
3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1หลังการเรียนด้วยการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1สูงกว่าก่อนเรียน โดยคะแนนเฉลี่ยการทดสอบก่อนเรียนด้วยกรพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 71.43 คะแนนเฉลี่ยการทดสอบหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ85.40 และมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ( =4.90/S.D.= 0.30)รองลงมาคือการเชื่อมโยงแบบฝึกทักษะต่าง ๆ รวดเร็วและง่าย ( =4.85//S.D. = 0.43) และด้านเวลาที่ใช้ในการเรียนบทเรียน มีระดับความพึงพอใจต่ำที่สุดคืออยู่ในระดับมาก ( =4.33//S.D. = 0.64)
4. นักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบ DR-TA (Directed Reading Thinking Activity) ร่วมกับหนังสืออ่านเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับ มาก ( =4.05/S.D. = 0.46)เมื่อพิจารณาแยกเป็นรายด้านเรียงลำดับจากความพึงพอใจมากไปหาน้อย พบว่า ความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.90//S.D. = 0.30)รองลงมาคือ.การเชื่อมโยงแบบฝึกทักษะต่าง ๆ รวดเร็วและง่าย ( =4.85//S.D. = 0.43)และด้านเวลาที่ใช้ในการเรียนบทเรียน มีระดับความพึงพอใจต่ำที่สุดคืออยู่ในระดับมาก ( =4.33//S.D. = 0.64)