ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมกา

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เรื่อง การสื่อสาร

ข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมการสร้าง

ความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์

ผู้วิจัย นางสาวณัชชา ฮะลิพงษ์

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมการสร้าง ความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมการสร้างความรู้ของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อน – หลังเรียนด้วยรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมการสร้าง ความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์ 3) เพื่อเปรียบเทียบ

ผลการประเมินตนเองในการสร้างความรู้ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมการสร้างความรู้ของนักเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เรื่อง การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมการสร้างความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 โรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 โรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ที่กำลังศึกษา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 16 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเชื่อมั่น ค่าความเที่ยงตรง

ค่าความยากง่าย การหาประสิทธิภาพของ E1 /E2 และทดสอบค่าที ( t-test dependent) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบประเมินรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่าน เครือข่ายสังคมออนไลน์ แบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เกิดจากรูปแบบ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคม แบบประเมินตนเองในการสร้างความรู้ก่อนและหลัง

การใช้รูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์

ผลการวิจัย พบว่า 1) รูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ มี 5 องค์ประกอบ คือ 1)บทบาทผู้เรียนและครูผู้สอน 2) ประเด็นสาระความรู้ 3) เครื่องมือในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Facebook) 4) กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ 5) การวัดและประเมินผล (Evaluate) มีกระบวนการของรูปแบบการแลกเปลี่ยนผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นตอนที่ 1 ขั้นการวางแผนกิจกรรม 2) ขั้นตอนที่ 2

ขั้นกำหนดสาระความรู้ 3) ขั้นตอนที่ 3 ขั้นกิจกรรมสืบเสาะแสวงหา 4) ขั้นตอนที่ 4 ขั้นกิจกรรม

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างความรู้ด้วยตนเอง 5) ขั้นตอนที่ 5 ขั้นประเมินผล ผ่านการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ 4 ท่าน และจากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า กระบวนการกิจกรรม

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่พัฒนาขึ้น

ในภาพรวมมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.86, S.D. = 0.25) มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานเท่ากับ 80.16/83.75 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ผลการวิเคราะห์คะแนนการประเมินตนเอง พบว่า คะแนนเฉลี่ยของคะแนนการสร้างความรู้หลังการวิจัย

อยู่ในระดับ มาก ( X-bar = 3.82 ) โดยสูงกว่าคะแนนก่อนการวิจัยอยู่ในระดับ ปานกลาง

( X-bar = 2.62 ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิเคราะห์คะแนนการประเมินผลสัมฤทธิ์การส่งเสริมความรู้ t - test dependent group พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

สูงขึ้นและผลคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าคะแนนเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อนเรียนเท่ากับ 14.50 และ 1.83 ตามลำดับ

ส่วนค่าคะแนนเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนเท่ากับ 17.50 และ 1.61 การทดสอบ

แบบทางเดียว (One Tailed) พบว่า ค่า t ที่ได้จากการคำนวณมีค่าเท่ากับ 7.56 จากนั้น

ทำการเปรียบเทียบตารางหาค่าวิกฤติของ t มีค่า df ( 0.20 – 1.00 ) = 19 มีระดับนัยสำคัญ

ทางสถิติ 0.05 พบว่า มีค่า t จากการเปิดตารางมีค่าเท่ากับ 1.7291 ซึ่งมีค่า t ที่คำนวณได้มีค่าที่มากกว่า t ที่ได้จากตาราง แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เกิดจากรูปแบบ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ที่ระดับ 0.05 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่าน

เครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยภาพรวมสรุปได้ว่านักเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจ

มากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.93 คะแนนเฉลี่ยสูงสุดของ ความพึงพอใจ คือ ความพึงพอใจในการสร้างความรู้ที่เกิดจากการใช้รูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ มีค่าเท่ากับ 5.00

โพสต์โดย เก๋ : [19 มี.ค. 2562 เวลา 23:27 น.]
อ่าน [3897] ไอพี : 182.232.185.54
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,048 ครั้ง
ค้นพบคุณประโยชน์ของพวกผลไม้หลังสุด มีคุณมากกว่าเก่า 5 เท่า
ค้นพบคุณประโยชน์ของพวกผลไม้หลังสุด มีคุณมากกว่าเก่า 5 เท่า

เปิดอ่าน 12,162 ครั้ง
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?

เปิดอ่าน 127,813 ครั้ง
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล

เปิดอ่าน 15,673 ครั้ง
อยากรวย! ต้องขยันอ่านหนังสือ เคล็ดลับความรวยที่ไม่ค่อยมีใครบอก!!
อยากรวย! ต้องขยันอ่านหนังสือ เคล็ดลับความรวยที่ไม่ค่อยมีใครบอก!!

เปิดอ่าน 10,886 ครั้ง
วิดีทัศน์นำเสนอภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ ด้านการศึกษา
วิดีทัศน์นำเสนอภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ ด้านการศึกษา

เปิดอ่าน 10,427 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์

เปิดอ่าน 14,041 ครั้ง
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)

เปิดอ่าน 15,182 ครั้ง
วิธีกำจัดกลิ่น กระเทียมติดปาก
วิธีกำจัดกลิ่น กระเทียมติดปาก

เปิดอ่าน 13,134 ครั้ง
เปิด4เมนูอาหารชุด นิยมใช้ตักบาตร ทำสงฆ์ป่วยสารพัดโรค
เปิด4เมนูอาหารชุด นิยมใช้ตักบาตร ทำสงฆ์ป่วยสารพัดโรค

เปิดอ่าน 97,348 ครั้ง
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 14,842 ครั้ง
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน

เปิดอ่าน 146,305 ครั้ง
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7

เปิดอ่าน 32,840 ครั้ง
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)

เปิดอ่าน 12,243 ครั้ง
คลิป ซึ้งๆ สอนให้รู้ว่า อย่าดูคนแค่ภายนอก
คลิป ซึ้งๆ สอนให้รู้ว่า อย่าดูคนแค่ภายนอก

เปิดอ่าน 12,475 ครั้ง
ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน
ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน

เปิดอ่าน 21,878 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
เปิดอ่าน 22,420 ครั้ง
เงินเดือนเป็นความลับ
เงินเดือนเป็นความลับ
เปิดอ่าน 5,431 ครั้ง
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022
เปิดอ่าน 27,945 ครั้ง
หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ การเปลี่ยนชื่อโรงเรียน
หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ การเปลี่ยนชื่อโรงเรียน
เปิดอ่าน 11,730 ครั้ง
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ