ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค
STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
ผู้ศึกษา นางนันธิดา บุดดาพงษ์
ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนเทศบาล ๑ สุขวิทยากรตั้งตรงจิตร ๑๕ กองการศึกษา
เทศบาลเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
ปีที่ศึกษา ๒๕๖๐
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนตามแผนการจัดการเรียนรู้ และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนตามแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ห้องเรียนพิเศษ (Excellence in Science and Mathematics : ESM) จำนวน ๑ ห้องเรียน คือ ห้องเรียนที่ ๔/๕ ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนเทศบาล ๑ สุขวิทยากรตั้งตรงจิตร ๑๕ เทศบาลเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร จำนวน ๓๕ คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบสุ่มกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔, แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่านหมั่นฝึกปรือ รวม ๖ ชุด และหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เข้าใจคำ นำไปใช้ รวม ๖ ชุด รวมทั้งสิ้น ๑๒ ชุด, แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านและการเขียนคำ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ นำข้อมูลที่ได้จากการทดลองมาวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ การทดสอบค่าประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ และการทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t test ( Dependent Sample )
ผลการศึกษา
๑. แผนการจัดการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีประสิทธิภาพในระดับ ดีมาก โดยแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน หมั่นฝึกปรือ มีประสิทธิภาพ ๙๐.๗๐/ ๘๔.๘๖ และหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เข้าใจคำ นำไปใช้ มีประสิทธิภาพ ๙๓.๑๕/๘๖.๐๙ สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ๘๐/๘๐
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังการเรียนตามแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน หมั่นฝึกปรือ และหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เข้าใจคำ นำไปใช้ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๓. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนตามแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำยากภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ในระดับ มากที่สุด ทั้งในภาพรวมและในแต่ละรายการ