ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ” โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียน ของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ” โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปี การศึกษา 2560

ผู้รายงาน นางสาววนิดา ไหมพรม

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนสทิงพระวิทยา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2560

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ” โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปี การศึกษา 2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินสภาพแวดล้อมของโครงการ เกี่ยวกับความต้องการจำเป็น ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ความสอดคล้องกับนโยบายต้นสังกัด และความเป็นไปได้ของโครงการ 2) ประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการ เกี่ยวกับความพร้อมของบุคลากร ความพียงพอของงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ การบริหารจัดการ และหน่วยงานที่สนับสนุนโครงการ 3) ประเมินกระบวนการดำเนินงานของโครงการ เกี่ยวกับการวางแผน การดำเนินงาน ติดตามกำกับและประเมินผลนำมาปรับปรุงและพัฒนา และ4) ประเมินผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย การประเมินเกี่ยวกับความสำเร็จของการดำเนินงานพัฒนาทักษะอาชีพ ดังนี้ 4.1) คุณภาพของการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ” โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560 4.2) พฤติกรรมการสอนของครูในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน 4.3) ทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560 และ 4.4) ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชนที่มีต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ” โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ดังนี้ ประชากรครู ปีการศึกษา 2560 จำนวน 15 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 108 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง จำนวน 108 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน และกลุ่มตัวอย่างเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลมี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 3 ฉบับ และแบบบันทึกเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ และแบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริงเกี่ยวกับการพัฒนาด้าน จำนวน 1 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ โดยใช้โปรแกรม SPSS Version 18 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และค่าร้อยละ (Percentage)

ผลการประเมินพบว่า

1. ระดับคุณภาพของการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ” โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2560 หลังการพัฒนาโดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีคุณภาพในระดับมาก เมื่อพิจารณาจำแนกเป็นรายกลุ่มที่ประเมินพบว่า ครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือผู้ปกครอง อยู่ในระดับปานมาก ส่วนเครือข่ายชุมชนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมากเช่นกัน สอดคล้องตามสมสมมติฐาน

2. ระดับคุณภาพของพฤติกรรมการสอนของครูในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียนและผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก โดยผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยสูงสุดรองลงมาคือนักเรียน อยู่ในระดับมาก สอดคล้องตามสมสมมติฐาน

3. คุณภาพของทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียนโรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560 พบว่าโรงเรียนมีการจัดทักษะอาชีพที่หลากหลายสอดคล้องกับความถนัด ความสนใจของนักเรียน และบริบทของท้องถิ่นและความต้องการ ส่งผลให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน สามารถดูแลตนเองและแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ สอดคล้องตามสมสมมติฐาน

4. ระดับคุณภาพความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาและเครือข่ายชุมชน ที่มีต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ” โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า นักเรียนมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจสูงสุด อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก ส่วนเครือข่ายชุมชนมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่ำสุด อยู่ในระดับมากเช่นกันสอดคล้องตามสมสมมติฐาน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้

1.1 โรงเรียนควรความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา และเครือข่ายชุมชน ถึงความสำคัญในการพัฒนาพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เพราะจะส่งผลให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน สามารถดูแลตนเองและแบ่งเบาภาระครอบครัวได้

1.2 การดำเนินกิจกรรมควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และควรประเมินผลผลิตด้านทักษะอาชีพของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูการพัฒนาและเสริมแรงสร้างขวัญกำลังใจ ตลอดจนแนวโน้มในการต่อยอดเพื่อเป็นอาชีพในโอกาสต่อไป

2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษาปัจจัยหรือองค์ประกอบที่ส่งผลต่อทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียน เช่น ด้านการตลาด การบรรจุหีบห่อที่สวยงามและมีมาตรฐานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม

2.2 ควรศึกษาทักษะอาชีพของท้องถิ่นหรือชุมชนดั้งเดิมเพื่ออนุรักษ์ไว้และพัฒนาสู่ความเป็นสากลหรือสินค้าโอทอป

โพสต์โดย ์nida : [15 มี.ค. 2562 เวลา 06:39 น.]
อ่าน [5820] ไอพี : 14.207.35.193
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,284 ครั้ง
ปัญหาเรื่องตา ในผู้ป่วยเบาหวาน
ปัญหาเรื่องตา ในผู้ป่วยเบาหวาน

เปิดอ่าน 22,295 ครั้ง
ฟักทอง เต็มเปี่ยมด้วยประโยชน์
ฟักทอง เต็มเปี่ยมด้วยประโยชน์

เปิดอ่าน 14,523 ครั้ง
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี

เปิดอ่าน 19,497 ครั้ง
ที่มาของคำว่า "อัสสัมชัญ"
ที่มาของคำว่า "อัสสัมชัญ"

เปิดอ่าน 21,161 ครั้ง
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี

เปิดอ่าน 40,379 ครั้ง
วิธีตั้งชื่อมิให้เป็นกาลกิณี
วิธีตั้งชื่อมิให้เป็นกาลกิณี

เปิดอ่าน 4,890 ครั้ง
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565

เปิดอ่าน 17,466 ครั้ง
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก

เปิดอ่าน 50,951 ครั้ง
8 วิธีลดความเครียดให้แก่เด็ก
8 วิธีลดความเครียดให้แก่เด็ก

เปิดอ่าน 10,197 ครั้ง
ตามคาด! แอปเปิลเปิดตัว
ตามคาด! แอปเปิลเปิดตัว 'ไอแพด มินิ' จอกว้าง 7.9 นิ้ว

เปิดอ่าน 21,608 ครั้ง
ดวงจันทร์ (Moon)
ดวงจันทร์ (Moon)

เปิดอ่าน 22,675 ครั้ง
การวิจัยระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางเทคโนโลยีการศึกษา
การวิจัยระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 54,850 ครั้ง
10 ดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยค้นพบ
10 ดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยค้นพบ

เปิดอ่าน 49,188 ครั้ง
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน

เปิดอ่าน 1,828 ครั้ง
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"

เปิดอ่าน 10,710 ครั้ง
ข้อมูลควรรู้ เกี่ยวกับ "เครดิตบูโร" ว่าเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
ข้อมูลควรรู้ เกี่ยวกับ "เครดิตบูโร" ว่าเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
เปิดอ่าน 13,359 ครั้ง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง
เปิดอ่าน 14,386 ครั้ง
8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
เปิดอ่าน 53,626 ครั้ง
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)
เปิดอ่าน 6,007 ครั้ง
แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ