ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและ
เขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม
(ปิยแหวนรังสรรค์)
ผู้วิจัย ประทีป ทวีศรี
สถานที่ โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ปีที่วิจัย พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียน คำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียน คำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียน คำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการสอนด้วยรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียน คำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 ของโรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 24 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 12 แผน 2) แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ จำนวน 1 ฉบับ 30 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียน คำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย
1. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล วัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) พบว่า
1.1 องค์ประกอบ การสอนโดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ต้องคำนึงถึงการใช้หลักจิตวิทยาและกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เหมาะสมกับวัยและความสามารถของนักเรียน ไม่น่าเบื่อและต้องกระตุ่นให้นักเรียนสนใจ ใคร่รู้ มีคำชี้แจงสั้น ๆ ใช้เวลาที่เหมาะสมและมีความหลากหลาย นักเรียนสามารถฝึกฝนด้วนตนเอง และเป็นสื่อที่สามารถพัฒนาทักษะความสามารถด้านการอ่านและเขียนได้เป็นอย่างดี
1.2 กระบวนการในรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล วัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) เป็นกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ซึ่งมีผลการดำเนินการ 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน (Research : R1) การวิเคราะห์ข้อมูล 1) ผลจาการศึกษา/วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน
2) ผลการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี สาระสำคัญ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
3) ผลการสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและพัฒนานวัตกรรม (Development : D1) การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) มีองค์ประกอบได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการสอน สิ่งสนับสนุน และเงื่อนไข
ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้ (Research : R2) เป็นการนำวิธีการหรือนวัตกรรมไปใช้
ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลและปรับปรุง (Development : D2) เป็นการประเมินผล
1.3 การหาประสิทธิภาพของแบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว พบว่า นักเรียนมีค่าคะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียน เท่ากับ 48.63 คิดเป็นร้อยละ 81.04 ค่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 26.54 คิดเป็นร้อยละ 88.47 แสดงว่า แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน เท่ากับ 81.04/88.47 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ E1/E2 เท่ากับ 75/75
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการพัฒนากิจกรรม การเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 20.88 คิดเป็นร้อยละ 34.79 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 26.54 คิดเป็นร้อยละ 44.24 แสดงว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก เรื่องการอ่านและเขียนคำควบกล้ำที่มี ร ล ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดธรรมิการาม (ปิยแหวนรังสรรค์) พบว่า โดยภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ในระดับมาก ( = 4.15) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.=0.68)