หัวข้อวิจัย การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนา
การอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางอาภรณ์ แก้วไทย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
ปีที่จัดทำ 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) สร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ประเมินผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี จำนวน 34 คน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2559 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD จำนวน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.81 และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่า (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต้องการให้มีแผนพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ หลายรูปแบบ เนื้อหาน่าสนใจ เข้าใจง่าย เป็นเรื่องราวใกล้ตัวเด็ก ควรมีสีสวยสวยงาม มีรูปภาพประกอบ มีเนื้อหาที่ให้ความสนุกสนาน เรียงลำดับจากง่ายไปหายาก รวมทั้งต้องการให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งรายบุคคลและแบบกลุ่ม
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.83/81.89 เมื่อเทียบตามเกณฑ์ 80/80
3. ผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD พบว่า ผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือตามวิธี STAD เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก