|
|
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 4) ประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยเปรียบเทียบผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทย ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดมหาธาตุวรวิหาร) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 2 ห้องเรียน รวม 70 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 35 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ซึ่งแต่ละห้องมีผลการเรียนไม่แตกต่างกัน เนื่องจากโรงเรียนได้จัดห้องเรียนโดยคละความสามารถของนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินผลการเรียนวิชาภาษาไทย ซึ่งประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบความคงทนของความรู้ภาษาไทย แบบวัดเจตคติต่อการเรียนภาษาไทย และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (X) ร้อยละ (%) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบค่าที t-test dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความสอดคล้องกับนโยบายการจัดการศึกษาในปัจจุบันเหมาะกับวัย และตรงตามความต้องการของนักเรียน สามารถพัฒนานักเรียนให้เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัยในตนเอง มีทักษะในการปฏิบัติงาน ได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวไปหาสิ่งที่อยู่ไกลตัว สามารถลงมือปฏิบัติได้จริง ซึ่งการนำสถานการณ์ในชีวิตจริง มาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน จะส่งผลให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ สาระความรู้ ทักษะกระบวนการทางการเรียนวิชาภาษาไทย กระบวนการเรียนการสอน ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) ขั้นการจูงใจเพื่อเตรียมความพร้อม 2) ขั้นปฏิบัติ 3) ขั้นสะท้อนความรู้ 4) ขั้นสร้างความรู้ และ 5) ขั้นประเมินผล โดยรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นนี้ได้ผ่านการพิจารณาตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน มีค่าดัชนีความสอดคล้องของรูปแบบการเรียนการสอนเท่ากับ 1.00 ทุกรายการ ค่าประสิทธิภาพแบบรายบุคคล (Individual Tryout) มีค่าเท่ากับ 80.95/81.67 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.22/83.61 และค่าประสิทธิภาพแบบภาคสนาม (Field Tryout) มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.75/85.25
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งนำไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดมหาธาตุวรวิหาร) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี จำนวน 35 คน โดยผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการทดลองด้วยตนเอง ใช้ระยะเวลาในการทดลองสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง รวม 14 ชั่วโมง เมื่อทดสอบหลังเรียน พบว่า ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 86.69/87.71 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1
4. ผลการประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 ซึ่งประกอบด้วยค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยก่อนเรียน และหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และค่าเฉลี่ยคะแนนความคงทนของความรู้ภาษาไทย ซึ่งวัดหลังจากทดสอบด้วยแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์ มีคะแนนไม่แตกต่างกัน แสดงว่ารูปแบบการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ช่วยให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง มีความคงทนของความรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยคะแนนเจตคติต่อการเรียนภาษาไทยหลังเรียนอยู่ในระดับสูง และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฏีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมผลการเรียนวิชาภาษาไทยอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้ ด้านบรรยากาศการเรียน ( x̄= 4.87, SD = 0.37) ด้านการจัดกิจกรรมการเรียน ( x̄= 4.79, SD = 0.09) ด้านระยะเวลาในการเรียน ( x̄= 4.72, SD = 0.48) และด้านการประเมินผลการเรียน ( x̄= 4.64, SD = 0.13)
|
โพสต์โดย พิศ : [9 มี.ค. 2562 เวลา 13:45 น.] อ่าน [5900] ไอพี : 101.108.163.73
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 2,864 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,301 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,060 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,706 ครั้ง
| เปิดอ่าน 97,484 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,749 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,794 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,615 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,441 ครั้ง
| เปิดอ่าน 53,389 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,567 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,689 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,267 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,333 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,192 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 11,305 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,846 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,909 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,980 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,030 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|