ชื่อเรื่อง การศึกษาและพัฒนารูปแบบการสอนโครงงานบูรณาการ Active Learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 2 (แม่ต๋ำดรุณเวทย์)
ผู้วิจัย นางจรัญญา ขันกฤษณ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
บทคัดย่อ
การวิจัย การพัฒนารูปแบบการสอนโครงงาน บูรณาการ Active learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2. เพื่อศึกษาผลการพัฒนารูปแบบการรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning หน่วยการเรียนรู้หน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3. เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning วิชา หน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่านและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 2 (แม่ต๋ำดรุณเวทย์) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558-2559 รวมจำนวน 64 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบวิเคราะห์รูปแบบการเรียนรู้รูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรียน แบบประเมินการนำเสนอโครงงาน และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
1 ผลการศึกษาการศึกษาสภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ปัญหาของนักเรียนที่เรียนในกลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมสภาพปัญหาของนักเรียนต่อวิชาสังคมและการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่านักเรียนทุกคนร้อยละ 100 ระบุว่าไม่มีความรู้เรื่องโครงงาน อันดับต่อมาคือ นักเรียนร้อยละ 90.63 มีความคิดเห็นว่ากระบวนการเรียนรู้จากโครงงานเป็น กระบวนการที่มีความยาก และอันดับที่สามคือ นักเรียนร้อยละ 46.88
2 ผลการพัฒนารูปแบบการรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า องค์ประกอบที่สำคัญ คือ รูปแบบวิธีสอนที่คำนึงถึงความต้องการและความสนใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ
3 ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning หน่วยการเรียนรู้หน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการเรียนแบบรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning ผู้วิจัยดำเนินการตรวจสอบคุณภาพโดยใช้ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้รูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning และศึกษาผลการทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ย 4.52 อยู่ในระดับมาก
4 ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ประสิทธิภาพมีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning มีค่าประสิทธิภาพกระบวนการ (E1) เท่ากับ 91.60 และมีค่าประสิทธิภาพผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 89.43 หรือมีค่า E1 / E2 เท่ากับ 91.60/89.43 โดยผ่านเกณฑ์ค่าประสิทธิภาพที่กำหนดไว้คือ 80/80
5 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning วิชาหน้าที่พลเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน โครงงาน บูรณาการ Active Learning ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.56