ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้ 2.1) ศึกษาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน ตามเกณฑ์ 75/75 2.2) เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ และแนวคิด การใช้ปัญหาเป็นฐาน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2.3) เปรียบเทียบการคิดอย่างมี วิจารณญาณ ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิด การใช้ปัญหาเป็นฐาน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การวิจัยครั้งนี้ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา ประกอบด้วย 3 ระยะ ได้แก่ ระยะ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลพื้นฐานด้านปัญหา และ ความต้องการในการจัดการเรียนวิชาการงาน อาชีพและเทคโนโลยี ด้วยการสอบถาม การสัมภาษณ์และ สังเกตชั้นเรียน รวมทั้งศึกษาแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน และ นำมาสังเคราะห์ออกแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมี วิจารณญาณ แล้วให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพและความเหมาะสม ระยะที่ 2 การนำการจัดการ เรียนรู้ที่ออกแบบในระยะแรก ไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และปรับปรุงในประเด็นที่ ยังไม่สมบูรณ์ให้มีคุณภาพและเหมาะสมยิ่งขึ้น ระยะที่ 3 นำการจัดการเรียนรู้ไปใช้จริงกับกลุ่มนักเรียน ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามนักเรียน 2) แบบสัมภาษณ์ครูด้านการจัดการเรียนรู้ 3) ความพึงพอใจพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบสังเกตชั้นเรียน 4) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน รวมเวลา 16 ชั่วโมง 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน จำนวน 25 ข้อ 6) แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ จำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วย t – test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้ วิชาการงานอาชีพ และเทคโนโลยี ในโรงเรียนที่เกี่ยวข้อง พบว่า การจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ยังมีปัญหาที่ต้องการปรับปรุงพัฒนาเพิ่มขึ้น จึงได้ออกแบบกิจกรรม การเรียนรู้ในวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับแนวคิดการใช้ ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน ที่ประกอบด้วยขั้นกิจกรรม 5 ขั้น ได้แก่ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 2) ขั้นกิจกรรม 3) ขั้นอธิบายความคิด รวบยอด 4) ขั้นฝึกทักษะและนำความรู้ไปใช้ และ 5) ขั้นประเมินผล ซึ่งมีผลการประเมินการจัดการ เรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญรายแผนอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด และโดยรวมอยู่ในระดับมาก

2. ผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยการผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิด การใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริม การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีดังนี้

2.1 แผนการจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.35/76.30 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 75/75

2.2 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยการผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิด การใช้ปัญหาเป็นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ ระดับ .05

2.3 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยการผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิด การใช้ปัญหาเป็นฐาน มีการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55

โดยสรุป การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ร่วมกับแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย Aorasa : [5 มี.ค. 2562 เวลา 18:17 น.]
อ่าน [2978] ไอพี : 1.4.132.10
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,220 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา

เปิดอ่าน 35,185 ครั้ง
ทำ "แผลแห้ง-แผลเปียก" ถูกวิธี
ทำ "แผลแห้ง-แผลเปียก" ถูกวิธี

เปิดอ่าน 53,689 ครั้ง
มารยาทของการจับมือ (shaking Hands)
มารยาทของการจับมือ (shaking Hands)

เปิดอ่าน 15,616 ครั้ง
10 ลักษณะนิสัยแห่งผู้ประสบความสำเร็จ
10 ลักษณะนิสัยแห่งผู้ประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 21,658 ครั้ง
เกมส์มาริโอทดสอบความจำ
เกมส์มาริโอทดสอบความจำ

เปิดอ่าน 21,357 ครั้ง
เกลือ สารพัดประโยชน์เพื่อความงาม ทำอะไรได้บ้าง
เกลือ สารพัดประโยชน์เพื่อความงาม ทำอะไรได้บ้าง

เปิดอ่าน 12,991 ครั้ง
"แป้งพับ"ก๊อปปี้แบรนด์ดังสุดน่ากลัว
"แป้งพับ"ก๊อปปี้แบรนด์ดังสุดน่ากลัว

เปิดอ่าน 26,545 ครั้ง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล

เปิดอ่าน 1,207 ครั้ง
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"

เปิดอ่าน 31,134 ครั้ง
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา

เปิดอ่าน 16,415 ครั้ง
10 สุดยอดความรู้วิทย์ เทคนิคสอนเด็กให้สนุก
10 สุดยอดความรู้วิทย์ เทคนิคสอนเด็กให้สนุก

เปิดอ่าน 8,008 ครั้ง
ผักตำลึง ผักข้างรั้วอินทรีย์ที่แท้จริง
ผักตำลึง ผักข้างรั้วอินทรีย์ที่แท้จริง

เปิดอ่าน 31,444 ครั้ง
ม่วงส่าหรี
ม่วงส่าหรี

เปิดอ่าน 14,934 ครั้ง
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)

เปิดอ่าน 15,396 ครั้ง
 สะพานซังฮี้  ซังฮี้แปลว่าอะไร?
สะพานซังฮี้ ซังฮี้แปลว่าอะไร?

เปิดอ่าน 15,266 ครั้ง
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 24,895 ครั้ง
นักฟิสิกส์ไทยสร้างผลงานแห่งประวัติศาสตร์ ค้นพบสูตรคำนวณฟิสิกส์ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
นักฟิสิกส์ไทยสร้างผลงานแห่งประวัติศาสตร์ ค้นพบสูตรคำนวณฟิสิกส์ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
เปิดอ่าน 14,798 ครั้ง
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
เปิดอ่าน 30,106 ครั้ง
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
เปิดอ่าน 28,911 ครั้ง
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ