ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
กลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน 2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน 3) เพื่อประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้และประโยชน์ของกลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน 4) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้กลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี การวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหาการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีโดยการการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Documentary Research) และสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 10 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และสรุปอุปนัย (Analytic Induction) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนากลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน โดยการจัดสนทนากลุ่ม (Focus Group) วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และสรุปอุปนัย (Analytic Induction) ขั้นตอนที่ 3 ประเมินความเหมาะสม เป็นไปได้และประโยชน์ของกลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่คณะกรรมการบริหารโรงเรียน จำนวน 30 คน โดยใช้แบบประเมิน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย (μ) ขั้นตอนที่ 4 การศึกษาผลการทดลองใช้กลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน ประชากร ได้แก่ ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 622 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 234 คน ได้มาโดยใช้วิธีตารางสำเร็จรูป krejcie และ Morgen โดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย(x ̅) และค่าร้อยละ และทดสอบการใช้กลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ นักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 120 คน โดยใช้แบบทดสอบการคิดวิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละเทียบคะแนนร้อยละก่อนเรียนกับหลังเรียน

ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาสภาพปัญหาการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้แนวทางในการสร้างกลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ดังนี้ (1) การพัฒนาหลักสูตร (2) การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา (3) การนิเทศการสอนครู (4) ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการสอนและอำนวยความสะดวกเพื่อให้นักเรียนการเกิดการเรียนรู้ (5) เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ 2) ผลการพัฒนากลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา กลยุทธ์ที่ 2 การพัฒนาศักยภาพครู กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ 4 การพัฒนาสื่อและแหล่งเรียนรู้ และกลยุทธ์ที่ 5 การส่งเสริมความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา 3) ผลการประเมินความเหมาะสมความเป็นไปได้และประโยชน์ของกลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) พบว่า โดยรวมทั้ง 5 กลยุทธ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 ความเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 ความเป็นไปได้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43 และประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 4) ผลการการทดลองใช้กลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 4.1) ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการใช้กลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด (x ̅ = 3.59) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้และด้านการพัฒนาสื่อและแหล่งเรียนรู้มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาศักยภาพครูและลำดับต่อมา คือ การส่งเสริมความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา 4.2) ผลการทดสอบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) ในภาพรวมมีการพัฒนาขึ้นทุกข้อหลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ 46.58

โพสต์โดย ฐิ : [5 มี.ค. 2562 เวลา 14:15 น.]
อ่าน [4976] ไอพี : 171.6.246.29
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,028 ครั้ง
คลิปว่อนยูทูบ แฉทำไมเทคโนโลยี "3G"ประเทศไทยล้าหลัง"ลาว" !!
คลิปว่อนยูทูบ แฉทำไมเทคโนโลยี "3G"ประเทศไทยล้าหลัง"ลาว" !!

เปิดอ่าน 76,292 ครั้ง
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 25,853 ครั้ง
รวมประกาศเกี่ยวกับการศึกษา
รวมประกาศเกี่ยวกับการศึกษา

เปิดอ่าน 37,274 ครั้ง
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข

เปิดอ่าน 12,037 ครั้ง
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย

เปิดอ่าน 11,801 ครั้ง
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"

เปิดอ่าน 26,508 ครั้ง
"รังผึ้ง" นวัตกรรมใหม่สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย
"รังผึ้ง" นวัตกรรมใหม่สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย

เปิดอ่าน 11,336 ครั้ง
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่

เปิดอ่าน 12,138 ครั้ง
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 14,627 ครั้ง
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี

เปิดอ่าน 8,636 ครั้ง
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 13,177 ครั้ง
หลักเกณฑ์ฯ เลื่อนวิทยฐานะครูใหม่ : ยิ่งแก้ ยิ่งวน
หลักเกณฑ์ฯ เลื่อนวิทยฐานะครูใหม่ : ยิ่งแก้ ยิ่งวน

เปิดอ่าน 11,164 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง

เปิดอ่าน 9,505 ครั้ง
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน

เปิดอ่าน 21,334 ครั้ง
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?

เปิดอ่าน 20,701 ครั้ง
ต้นกำเนิดของปลา
ต้นกำเนิดของปลา
เปิดอ่าน 14,386 ครั้ง
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
เปิดอ่าน 69,069 ครั้ง
เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่(ขณะนี้ ก.ค.ศ.ให้ชะลอไปก่อน)
เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่(ขณะนี้ ก.ค.ศ.ให้ชะลอไปก่อน)
เปิดอ่าน 17,259 ครั้ง
"รางวัลให้ครู"
"รางวัลให้ครู"
เปิดอ่าน 82,961 ครั้ง
การแรเงา
การแรเงา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ