เรื่อง กลยุทธ์การพัฒนาสมรรถภาพของครูในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ผู้วิจัย : นางธนิษฐ์ฌา แสงไพโรจน์
สังกัด : เทศบาลเมืองสระบุรี
ปีที่รายงาน : พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
กลยุทธ์การพัฒนาสมรรถภาพของครูในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการมีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ของครูในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ 2) เพื่อพัฒนา
ความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ครูผู้
ปฏิบัติการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาล ๑๐ (อนุบาลเทศบาลเมืองสระบุรี) สังกัด
เทศบาลเมืองสระบุรีจ านวน 36 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ผู้วิจัยได้ด าเนินการตามขั้นตอนการวิจัยปฏิบัติการตามขั้นตอน PAOR ร่วมกับเทคนิคการนิเทศแบบโคชชิ่ง(Coaching Techniques) 2 วงรอบ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบทดสอบ
แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตแบบบันทึกและแบบประเมิน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการทดสอบก่อนการประชุมเชิงปฏิบัติการของครูมีคะแนนเฉลี่ย 8.58คิดเป็นร้อย
ละ 42.92 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.81 ซึ่งแสดงว่าครูแต่ละคนมีความรู้ความเข้าใจ
อยู่ในระดับต่ า และผลการทดสอบหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ ครูมีคะแนนเฉลี่ย 18.14 คิดเป็น
ร้อยละ 90.69 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.02 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าครูมีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ อยู่ในระดับดีมาก หรือหากพิจารณาคะแนนเฉลี่ยจะพบว่า
หลังการประชุมเชิงปฏิบัติการสูงกว่าก่อนการประชุมเชิงปฏิบัติการ
2. การพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตาม
รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ตามขั้นตอน PAOR ร่วมกับเทคนิคการนิเทศแบบโคชชิ่ง (Coaching
Techniques) และผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการของครูที่เข้ารับการพัฒนาการจัด
การเรียนรู้แบบบูรณาการ มีรายละเอียดดังนี้
2.1 ผลการพัฒนาในวงรอบที่ 1 ใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการ มี2 กิจกรรม
ได้แก่ 1) การบรรยายให้ความรู้2) การฝึกปฏิบัติและการนิเทศ 3 กิจกรรม ได้แก่ การให้ค าปรึกษา
และแนะน า การสังเกตการสอนของครูการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งสามารถพัฒนา
ครูทั้งหมดให้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถจัดท าหน่วยการเรียนรู้เขียนแผนการจัดการเรียนรู้และ
ปฏิบัติการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้ แต่พบว่า ครูยังมี
ความวิตกกังวลและไม่มั่นใจในการด าเนินกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเฉพาะด้านการวัดและ
ประเมินผล วิธีการและเครื่องมือการวัดและประเมินผลยังไม่เป็นไปตามวิธีการวัดและประเมินผล
ตามสภาพจริง เกณฑ์การวัดยังไม่ชัดเจน เครื่องมือยังไม่หลากหลาย การวัดและประเมินผลยังไม่
ครอบคลุมพฤติกรรมทั้ง 3 ด้านของผู้เรียน ได้แก่ ด้านความรู้ทักษะกระบวนการและคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ผู้เรียนยังไม่มีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล ผู้วิจัยและครูได้ประชุมปรึกษาหารือ
เพื่อหาแนวทางในการพัฒนา ที่ประชุมมีมติให้มีการพัฒนาในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้
แบบบูรณาการด้านการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงด้วยการนิเทศอีกในวงรอบที่ 2 และผู้วิจัย
ได้จัดหาเอกสารเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ตัวอย่างแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการ
การวัดและประเมินผลตามสภาพจริง เพื่อน าไปสู่การพัฒนาในวงรอบที่ 2
2.2 ผลการพัฒนาในวงรอบที่ 2 ใช้กลยุทธ์การนิเทศ ได้แก่ การให้ค าปรึกษาและ
แนะน าโดยใช้เทคนิคการนิเทศแบบโคชชิ่ง (Coaching Techniques) การสังเกตการสอนในชั้นเรียน
การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน การศึกษาเอกสารเพิ่มเติม พบว่า สามารถพัฒนาครูให้มี
ความรู้ความเข้าใจสามารถจัดท าหน่วยการเรียนรู้เขียนแผนการจัดการเรียนรู้และปฏิบัติการจัดการ
เรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้โดยจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็น
ส าคัญ ใช้กระบวนการกลุ่ม มีสื่อการสอนที่ทันสมัยหลากหลายและเพียงพอ มีแหล่งเรียนรู้ทั้งภายใน
และภายนอกสถานศึกษา วิธีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงเหมาะสมและสอดคล้องกับสาระ
การเรียนรู้เนื้อหาสาระ เหมาะสมกับผู้เรียนและผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล
โดยสรุป กลยุทธ์การพัฒนาสมรรถภาพภาพของครูในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ทั้ง 2 วงรอบ โดยใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาการประชุมเชิงปฏิบัติการและการนิเทศภายใน ท าให้ครูมี
ความรู้ความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการอยู่ในระดับดี และท าให้ครูมี
ความสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการได้ในระดับที่เหมาะสม กล่าวคือ ครูสามารถจัดท า
หน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการอยู่ในระดับดี ครูสามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
อยู่ในระดับดี และพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนอยู่ในระดับด