ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์1 เรื่องเครื่องกล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 4/1 โรงเรียนวัดอินทาราม โดยใช้บทเรียนออนไลน์ (Google classro

ความเป็นมาความสำคัญของปัญหา

การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันสื่อเทคโนโลยีมีบทบาทและได้รับความนิยมอย่าง แพร่หลายในการนํามาช่วยจัดกิจกรรมด้านการเรียนการสอน เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ ทันสมัย สามารถผสมผสานระหว่างสื่อหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ ตัวเลข ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ที่เพิ่มความน่าสนใจของบทเรียน ถือว่าเป็นตัวช่วยสร้างน่าสนใจใน เนื้อหาให้กับนักเรียน มีการนําเอาคอมพิวเตอร์มาสร้างห้องเรียนออนไลน์ซึ่งทําให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา การเรียนรู้บนห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) เป็นการ เรียนรู้ผ่าน Application ที่รวมเอาบริการของ Google ที่มีอยู่แล้ว เช่น Drive, Docs, Gmail หรือ Sheet เข้ามารวมไว้ด้วยกัน และสามารถนําเสนอออกมาเป็นระบบเดียวแบบครบวงจร เพื่อใช้เป็นเครื่องมือให้ครูผู้สอนสามารถใช้ประโยชน์ในการสั่งงานและเก็บรวบรวมผลงานต่างๆ ของ นักเรียน อีกทั้งยังจะช่วยให้นักเรียนสามารถส่งงานได้ทันทีผ่านทางออนไลน์ ในขณะที่ ครูผู้สอนเองก็สามารถตรวจงานที่มอบหมาย พร้อมให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์ได้ โดย ครูผู้สอนสามารถสร้างหน้าห้องเรียนขึ้นมา และสามารถเพิ่ม-ลด นักเรียนเข้าไปได้หรือจะใช้ วิธีการส่งรหัสเพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าสู่ห้องเรียน จากสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยจึงสนใจพัฒนาห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) วิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล เพื่อนํามาใช้ ในการจัดการเรียนการสอน เพิ่มประสิทธิภาพในการสอนของครู เพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียน ช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียน มีทัศนคติที่ดีต่อวิชาฟิสิกส์ 1 ไม่เกิดความเบื่อหน่ายกับการสอนกับวิธีการสอน และสามารถศึกษาได้ด้วยตนเองนอกเวลาเรียนตามศักยภาพที่แตกต่างกันของบุคคล อีกทั้ง

เป็นแนวทางในการพัฒนาห้องเรียน ในเนื้อหาอื่น ๆ ต่อไป

วัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน รายวิชาฟิสิกส์ 1 (รหัสวิชา31211)

เรื่อง เครื่องกล โดยใช้ Google Classroom

2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาฟิสิกส์ 1 (รหัสวิชา31211) เรื่อง เครื่องกล หลังจากใช้ Google Classroom เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 75

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรายวิชาฟิสิกส์ 1 (รหัสวิชา31211) เรื่อง เครื่องกล โดยใช้ Google Classroom

สมมติฐานการวิจัย

1.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนในรายวิชาฟิสิกส์ 1 (รหัสวิชา31211) เรื่อง เครื่องกล โดยใช้ Google Classroom ของนักเรียนระดับมัธยมปีที่ 4/1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาฟิสิกส์ 1 (รหัสวิชา31211) เรื่อง เครื่องกล หลังจากใช้ Google Classroom สูงกวาเกณฑ์ร้อยละ 75

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชารายวิชาฟิสิกส์ 1 (รหัสวิชา31211) เรื่อง เครื่องกล โดยใช้ Google Classroom อยู่ระดับมากขึ้นไป ขอบเขตของการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนระดับชั้นนักเรียนระดับมัธยมปีที่ 4/1-2 จํานวน 2 ห้อง จำนวนนักเรียน 57 คน ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2561 โรงเรียนวัดอินทาราม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนวัดอินทาราม จํานวน 29 คน ซึ่งใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่มเลือกเจาะจง

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเครื่องกลมากขึ้น

2. นักเรียนมีสื่อที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่และตลอดเวลา

เครื่องมือที่ใช้

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย

1. ห้องเรียนออนไลน์ Google Classrommวิชาฟิสิกส์1 เรื่อง เครื่องกลสําหรับ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4/1

2. แบบทดสอบก่อนเรียน จํานวน 10 ข้อและหลังเรียน จํานวน 10 ข้อ

3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จํานวน 10 ข้อ

4. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) วิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล สําหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ คือ พึงพอใจมากที่สุด พึงพอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พึงพอใจน้อย พึงพอใจน้อยที่สุด จํานวน 20 ข้อ

วิธีดำเนินการวิจัย

ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล สําหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 เพื่อนําไป ทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จํานวน 20 ข้อ โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน คือ ตอบถูกต้องให้ 1 คะแนน ตอบผิด ไม่ตอบ หรือ ตอบเกิน 1 ตัวเลือกให้ 0 คะแนน ผู้วิจัยได้วางแผนการสร้างและหาคุณภาพของแบบทดสอบตาม ขั้นตอนดังนี้

1. นําขอบเขตเนื้อหา และจุดประสงค์การเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล สําหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 มาวิเคราะห์ประเภท และจํานวนแบบทดสอบ

2. สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล สําหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จํานวน 20 ข้อ โดยครอบคลุมเนื้อหาและผลการเรียนรู้ท

3. นําแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ที่สร้างขึ้นเสนอต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อ ตรวจสอบความถูกต้อง ขอความคิดเห็นและดําเนินการปรับปรุงแกไขข้อบกพร่อง

4. นําแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปให้ ผู้เชี่ยวชาญประเมินเพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเนื้อหา จุดประสงค์การเรียนรู้ และหาความ สอดคล้อง (IOC) ระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้

5. นําผลคะแนนที่ได้จากการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละข้อมาหาค่าเฉลี่ย และปรับปรุงแกไขข้อสอบบางข้อที่คําถามไม่ชัดเจนตามคําแนะนําของผู้เชี่ยวชาญ

6. นําแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปทดลองใช้กับ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จํานวน 28 คน ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอยาง ซึ่งเคยเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกลมาแล้ว หลังจากนั้นนําผลคะแนนมา วิเคราะห์หาคุณภาพข้อสอบเป็นรายข้อ เพื่อหาค่าความยาก (P) และค่าอํานาจจําแนก (B)

7.ผู้วิจัยนําผลการวิเคราะห์หาคุณภาพของแบบทดสอบมาพิจารณา เพื่อคัดเลือก แบบทดสอบที่มีคุณภาพ ได้แบบทดสอบที่มีค่าความยาก (P) และมีค่าอํานาจจําแนก (B) ตามวิธี ของ Brennan จํานวน 20 ข้อ เพื่อเป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

8. นําแบบทดสอบจํานวน 20 ข้อ ที่คัดเลือกไว้สําหรับนําไปใช้ทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาวิเคราะห์หาความเชื่อมัน (r) ของแบบทดสอบทั้งฉบับ ตามวิธีของ Lovett แล้วพิมพ์เป็นฉบับจริงเพื่อนําไปใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง

การสร้างและพัฒนาแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนทีมีการเรียนในห้องเรียน ออนไลน์ วิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล สําหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4/1เพื่อสํารวจความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนเรื่องเครื่องกล หลังจากได้เรียนในห้องเรียนออนไลน์ ผู้วิจัยได้ดําเนินการดังนี้

1.วิเคราะห์จุดประสงค์ของการวิจัย กำหนดโครงสร้างเนื้อหาของแบบสอบถาม

2. ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกบการวัดประเมินความพึงพอใจต่อการพัฒนา ห้องเรียนออนไลน์ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดรูปแบบของคําถาม และการใช้ถ้อยคําที่เหมาะสม

3. สร้างแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน โดยใช้ห้องเรียน ออนไลน์ โดยกำหนดพฤติกรรมที่ต้องการวัดให้ครอบคลุมต่อการเรียน จํานวน 20 ข้อ เป็นแบบวัดที่มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า โดยอาศัยหลักการของ Likert ซึ่งใช้มาตรา 5 อันดับ คือ พึงพอใจมากที่สุด พึงพอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พึงพอใจน้อย พึงพอใจน้อยที่สุด

4. นําแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 เรื่องเครื่องกล โดยใช้ห้องเรียนออนไลน์เสนอผู้เชี่ยวชาญ ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจแบบวัดความพึงพอใจ เพื่อหาค่าความ สอดคล้อง (IOC) (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ, 2543: 246-249)

วิธีวิเคราะห์ข้อมูล

การวิเคราะห์ข้อมูลและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน รายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง เครื่องกลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอินทาราม โดยใช้ห้องเรียน ออนไลน์ (Google classroom) ผู้วิจัยได้การวิเคราะห์ข้อมูลตามลําดับดังนี้

1 วิเคราะห์การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อน เรียนและหลังเรียน รายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง เครื่องกล ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอินทาราม โดยใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom)

2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของรายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง เครื่องกล ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอินทาราม หลังจากใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom) เทียบกับเกณฑ์

ร้อยละ 75

3 วิเคราะห์ความพึงพอใจทางการเรียนต่อรายวิชารายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง เครื่องกล ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอินทาราม โดยใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom)

ผลการวิจัย

จากการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้พบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom)รายวิชารายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง เครื่องกล ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอินทาราม มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนที่เรียนรายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง เครื่องกล โดยใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom) มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอย่าง มีนัยสําคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 และความพึงพอใจทางการเรียนของ รายวิชา ฟิสิกส์ 1 เรื่อง เครื่องกล ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอินทาราม โดยใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom) โดยรวมทุกด้านมีความพึงพอใจอยูในระดับ มาก เมื่อพิจารณารายด้านพบวาด้านประโยชน์ที่ได้รับอยู่ ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด

ข้อเสนอแนะ

1. ควรมีการศึกษาเพื่อพัฒนาบทเรียนออนไลน์ (Google classroom)วิชาฟิสิกส์ ในเนื้อหาอื่น ๆ เพื่อใช้

เป็นสื่อสําหรับการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย

2. ควรมีการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ระหว่าง การเรียนโดยใช้ห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom)กับวิธีการเรียนโดยใช้ นวัตกรรมทางการศึกษาแบบอื่น ๆ

3. ควรมีการศึกษาเพื่อพัฒนาห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom)ในเนื้อหารายวิชาอื่นๆ

โพสต์โดย ฺBo_Natt789 : [25 ก.พ. 2562 เวลา 19:55 น.]
อ่าน [4682] ไอพี : 182.52.200.73
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,665 ครั้ง
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด

เปิดอ่าน 11,999 ครั้ง
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด

เปิดอ่าน 9,973 ครั้ง
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"

เปิดอ่าน 17,641 ครั้ง
HRD & E-Learning
HRD & E-Learning

เปิดอ่าน 10,169 ครั้ง
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก

เปิดอ่าน 8,891 ครั้ง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง

เปิดอ่าน 49,572 ครั้ง
10 ดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยค้นพบ
10 ดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยค้นพบ

เปิดอ่าน 17,347 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 9,438 ครั้ง
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู

เปิดอ่าน 11,878 ครั้ง
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค วันที่ 10 - 16 ตุลาคม 2551
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค วันที่ 10 - 16 ตุลาคม 2551

เปิดอ่าน 30,143 ครั้ง
สอนให้เก่งพีชคณิต ต้องออกท่าออกทาง
สอนให้เก่งพีชคณิต ต้องออกท่าออกทาง

เปิดอ่าน 34,360 ครั้ง
ลายมือมหาเศรษฐี
ลายมือมหาเศรษฐี

เปิดอ่าน 7,821 ครั้ง
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7

เปิดอ่าน 20,436 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า

เปิดอ่าน 14,913 ครั้ง
4 ปัญหายอดฮิต เมื่อสอบติดมหา’ลัย
4 ปัญหายอดฮิต เมื่อสอบติดมหา’ลัย

เปิดอ่าน 31,531 ครั้ง
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
เปิดอ่าน 5,140 ครั้ง
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
เปิดอ่าน 18,556 ครั้ง
11 สัญญาณเตือนว่าลูกกำลังโดนทำร้ายอยู่นะ
11 สัญญาณเตือนว่าลูกกำลังโดนทำร้ายอยู่นะ
เปิดอ่าน 211,979 ครั้ง
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์
เปิดอ่าน 17,366 ครั้ง
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ