ชื่อเรื่อง การศึกษาสภาพและผลการดำเนินงาน การพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพ
การปลูกองุ่นของชุมชนบนพื้นที่สูง โดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
ผู้วิจัย นางแววดาว จิตตะมาลา
สถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเชียงคำ
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดพะเยา
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาสภาพและประเมินผลการดำเนินงาน การพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพ
การปลูกองุ่นของชุมชนบนพื้นที่สูง โดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อการศึกษาสภาพและประเมินผลการดำเนินงาน การพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพการปลูกองุ่นของชุมชนบนพื้นที่สูง โดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต สำหรับผู้บริหาร ครู และผู้เรียนรู้2) เพื่อเสนอแนะปัญหา อุปสรรค และแนวทางการดำเนินงาน การพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพการปลูกองุ่นของชุมชนบนพื้นที่สูง โดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และบุคคลภูมิปัญญาท้องถิ่น จำนวน 44 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) กลุ่มที่ 2 ผู้เรียนรู้ จำนวน 22 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) กลุ่มที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย สำหรับการเก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่ม (Focus group) ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) จำนวน 7 คน รูปแบบการวิจัยเชิงสำรวจ และวิจัยเชิงประเมิน โดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPP Model ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัยคือ ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามการประเมินโครงการพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพการปลูกองุ่นของชุมชนบนพื้นที่สูง โดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มี 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 สำหรับผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 65 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.23 0.81 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 ฉบับที่ 2 สำหรับผู้เรียนรู้ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.34 0.82 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการประเมินโครงการพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพการปลูกองุ่นของชุมชนบนพื้นที่สูง โดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ในภาพรวมทั้ง 4 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.58) เมื่อพิจารณาโดยเรียงจากค่าเฉลี่ยระดับความเหมาะสมสูงสุด 3 อันดับ พบว่า อันดับแรก คือ ด้านกระบวนการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59, S.D. = 0.65) รองลงมาคือ ด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.58) และด้านสภาวะแวดล้อม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D. = 0.55) ตามลำดับ ส่วนรายข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านปัจจัยนำเข้า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D. = 0.63)
2. ข้อเสนอแนะปัญหา อุปสรรค และแนวทางการดำเนินงาน การพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพการปลูกองุ่นของชุมชนบนพื้นที่สูง โดยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยาจากการสนทนากลุ่ม (Focus Group) พบว่า ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ยังขาดเทคนิควิธีการที่จะนำนโยบายเกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ การบริหารจัดการและการใช้หลักสูตร การบูรณาการการจัดกิจกรรม การนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล การนำผลการวิจัยและการประเมินไปใช้อย่างจริงจัง ซึ่งสถานศึกษามีสภาพแวดล้อมที่พร้อมในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ทั้งด้านการประกอบอาชีพ สถานที่ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดทรัพยากรทางการศึกษา บุคลากรไม่เพียงพอ งบประมาณสนับสนุนมีน้อย ประชาชนยังไม่มั่นใจในความรู้ ทักษะและประสบการณ์ที่มีในการทำโรงองุ่น เช่น การให้น้ำต้นองุ่นต้องระมัดระวังห้ามไม่ให้ถูกใบองุ่น การดูแลลำต้นองุ่นไม่ให้หนอนกระทู้เข้ากัดกินลำต้นองุ่น และขาดนักวิชาการมาช่วยติดตามช่วยเหลือเป็นระยะของการเจริญเติบโตของต้นองุ่นจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ควรพัฒนาบุคลากรโดยเน้นการนำหลักการ ทฤษฎี และนโยบายสู่การปฏิบัติ ระดมและจัดสรรงบประมาณเพื่อเพิ่มทรัพยากรการศึกษา วัสดุอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ เครื่องมือที่มีคุณภาพในการดำเนินงานอย่างเพียงพอ พัฒนาระบบบริหารจัดการ มีการมอบหมายงาน การจัดองค์กร และแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ นำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น หรือประสานหน่วยงานภายนอกทั้งรัฐและเอกชนในการสนับสนุนด้านทรัพยากร