บทคัดย่อ
ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน 2) ศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนเทศบาลบ้านปากทาง สังกัดเทศบาลเมืองพิจิตร ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัยได้แก่
1) เอกสารประกอบการเรียนเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ จำนวน 5 หน่วย 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน ผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียนมีความต้องการเรียนเคมีด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ในระดับมาก ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เห็นว่า การจัดทำเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ ควรประกอบด้วย การทบทวนเนื้อหา กฎเกี่ยวกับมวลสารสัมพันธ์ การหามวลเป็นร้อยละจากสูตร สูตรเคมี การเขียนและดุลสมการเคมี โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น
2. เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 83.31/81.84 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ สูงกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และมีความก้าวหน้าทางการเรียนร้อยละ 74.40
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ อยู่ในระดับมากที่สุด
คำสำคัญ : เอกสารประกอบการเรียน, การเรียนการสอนแบบวัฏจักรการเรียนรู้, ปริมาณสารสัมพันธ์