ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ของโรงเรียนบ้านบึงลัด ปีการศึกษา 2560 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข

โรงเรียนบ้านบึงลัด

ลักษณะผลงาน : การประเมินโครงการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่

ผู้รายงาน : นางสาวอมรรัตน์ พนัสนาชี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงลัด

หน่วยงาน : โรงเรียนบ้านบึงลัด อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร

ปีที่รายงาน : 2560

บทสรุปผู้บริหาร

รายงานการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โรงเรียนบ้านบึงลัดครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต และผลกระทบของการดำเนินโครงการ โดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPP กลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีจำนวนทั้งสิ้น 138 คน แบ่งเป็น ผู้บริหาร จำนวน 1 คน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 9 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน นักเรียน จำนวน 21 คน ผู้ปกครอง จำนวน 95 คน และผู้นำชุมชน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วยแบบสอบถาม จำนวน 2 ฉบับ แบบประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติดกับนักเรียน จำนวน 1 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows ผลการประเมิน และข้อเสนอแนะ สรุปได้ดังนี้

ผลการประเมิน

ผลการประเมินโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด สรุปภาพรวมของการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบ้านบึงลัด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 โดยภาพรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านบริบท (Context) ด้านผลผลิต (Product) ด้านผลกระทบ (Impact) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านกระบวนการ (Process) และด้านปัจจัยนำเข้า (Input) อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ เมื่อแยกพิจารณาตามรายการประเมิน สรุปได้ดังนี้

1. บริบท (Context) ของโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาทั้ง 4 ตัวชี้วัด พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ การกำหนดแผนงานและโครงการ/ กิจกรรมสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีของโรงเรียน การจัดตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข และมีห้องปฏิบัติกิจกรรม การนำข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบันและเอกสารที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการวางแผนดำเนินงานโครงการได้เหมาะสม ส่วนการนำนโยบายและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการป้องกัน สารเสพติดและอบายมุขของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาใช้เพื่อดำเนินโครงการได้เหมาะสมอยู่ในระดับมาก

2. ปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านแผนการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนระยะเวลาดำเนินการ ความพร้อมของบุคลากร และด้านงบประมาณ อยู่ในระดับมาก

3. กระบวนการ (Process) ดำเนินงานของโครงการอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการเฝ้าระวัง อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านการค้นหา ด้านการป้องกัน และด้านการบริหารจัดการอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการรักษา อยู่ในระดับน้อย

4. ผลผลิต (Product) ของโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อแยกพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ ด้านสถานศึกษา ด้านนักเรียน และด้านการประสานความร่วมมือกัน ส่วนด้านชุมชน อยู่ในระดับมาก

5. ผลกระทบ (Impact) ของโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อแยกพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 2 ตัวชี้วัด ได้แก่ ด้านสถานศึกษา และชุมชน/ผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก 2 ตัวชี้วัด ได้แก่ ด้านนักเรียน และด้านการดำเนินโครงการ

6. ผลการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบึงลัด ปีการศึกษา 2560” ของผู้บริหาร ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Context) 2) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) 3) ด้านกระบวนการ (Process) 4) ด้านผลผลิต (Product) และ 5) ด้านผลกระทบ (Impact) สอดคล้องกับผลประเมินโครงการของนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้นำชุมชน ซึ่งประเมิน จำนวน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านกระบวนการ (Process) 2) ด้านผลผลิต (Product) และ 3) ด้านผลกระทบ (Impact)

7. ผลการประเมินภูมิคุ้มกันยาเสพติดและสารเสพติดกับนักเรียน โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบึงลัด ปีการศึกษา 2560 พบว่า ภาพรวมของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 นักเรียน จำนวน 21 คน มีภูมิคุ้มกัน คิดเป็นร้อยละ 66.67 และมีภูมิคุ้มกันต่ำ คิดเป็นร้อยละ 33.33 เมื่อพิจารณาแยกเพศชายและเพศหญิง พบว่า นักเรียนเพศชายและเพศหญิง มีระดับภูมิคุ้มกันเท่ากัน คิดเป็นร้อยละ 66.67 และมีระดับภูมิคุมกันต่ำ คิดเป็นร้อยละ 33.33 ไม่แตกต่างกัน โดยนักเรียนของโรงเรียนบ้านบึงลัดไม่มีนักเรียนกลุ่มเสี่ยงต่อการใช้ยาและสารเสพติด

ข้อเสนอแนะ

1. เชิงนโยบาย

1.1 โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ในการป้องกัน แก้ปัญหาสารเสพติด การพนัน สื่อลามกอนาจาร และการทะเลาะวิวาทในโรงเรียนเป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นการนำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และองค์กรต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ วางแผนงานต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุข อย่างแท้จริงและเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เห็นสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขต่อไป

1.2 เพื่อให้การดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพบรรลุเป้าหมายในการที่จะให้โรงเรียนปลอดจากสารเสพติด การพนัน สื่อลามกอนาจาร และการทะเลาะวิวาทอย่างยั่งยืน ควรมีหน่วยงานที่รับผิดชอบระดับกระทรวง เขตพื้นที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้กำกับ ติดตาม นิเทศ และติดตามผลการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

1.3 โรงเรียนควรมีนโยบายในการดำเนินงานโครงการอย่างชัดเจน ทั้ง 4 ส่วน คือส่วนของการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การพนัน สื่อลามกอนาจารและการทะเลาะวิวาท โดยเฉพาะการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจและร่วมกันติดต่อประสานการดำเนินงานกับผู้เกี่ยวข้อง นั้นคือ 4 ประสาน 2 ค้ำ ซึ่งหมายถึง ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบโครงการ ตัวแทนนักเรียน ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน และผู้นำชุมชน โดยเฉพาะ 2 ค้ำ คือ ตำรวจ ทหาร ผู้นำท้องถิ่น หรือผู้นำศาสนา ซึ่งอยู่ในท้องถิ่นและชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการอย่างจริงจัง

2. ด้านการปฏิบัติ

2.1 ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ ถึงแม้จะมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด แต่ในตัวชี้วัดการนำนโยบายและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการป้องกันสารเสพติด อบายมุขของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาใช้เพื่อดำเนินโครงการได้เหมาะสมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด จึงควรศึกษารายละเอียดของโครงการเพื่อนำนโยบายมาปฏิบัติ ให้ครอบคลุมแผนการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น

2.2 ด้านปัจจัยนำเข้า จากผลการประเมินพบว่ามีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ด้านจำนวนบุคลากรเหมาะสม ซึ่งผู้บริหารควรแบ่งกิจกรรมในการรับผิดชอบให้เหมาะสม รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณในแต่ละกิจกรรมให้มีความเหมาะสมและเพียงพอ เพื่อให้การปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับการดำเนินงานสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ทั้งนี้สถานศึกษาควรขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

2.3 ด้านกระบวนการ อยู่ในระดับมาก ควรกำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงานแล้วมอบหมายงานให้สอดคล้องกับความรู้ความสามารถ กำกับ ติดตาม ควบคุมการดำเนินงานและประเมินผลระหว่างการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามปฏิทินการปฏิบัติงาน

2.4 ด้านผลผลิตของโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด ในตัวชี้วัดสภาพชุมชนใกล้เคียงสถานศึกษาไม่มีแหล่งการพนัน มีผลการประเมินค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก แต่ยังน้อยกว่าตัวชี้วัดอื่น แสดงให้เห็นว่าการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ยังไม่เกิดผลไปถึงชุมชนมากนัก จึงควรประสานความร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขในชุมชนต่อไป

2.5 ด้านผลกระทบของโครงการ ในตัวชี้วัดผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน พบว่าในบางรายการประเมินเช่น นักเรียนสามารถคิด ตัดสินใจและทำโครงการ/ กิจกรรมต่าง ๆ ตามที่ตนเองสนใจได้ มีผลการประเมินค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก แต่ยังน้อยกว่าตัวชี้วัดอื่น จึงควรกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามารถในการคิด การตัดสินใจ กล้าลงมือปฏิบัติให้มากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย ตั๊ก : [20 ก.พ. 2562 เวลา 10:25 น.]
อ่าน [3691] ไอพี : 223.205.83.186
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,794 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?

เปิดอ่าน 16,329 ครั้ง
กำแพงกั้นเสียง
กำแพงกั้นเสียง

เปิดอ่าน 7,087 ครั้ง
คุณภาพผู้เรียนวัดจาก NT-ONET เส้นทางที่ลางเลือน!
คุณภาพผู้เรียนวัดจาก NT-ONET เส้นทางที่ลางเลือน!

เปิดอ่าน 20,563 ครั้ง
ประโยชน์ของ "เปลือกกล้วย" ที่คุณอาจไม่รู้
ประโยชน์ของ "เปลือกกล้วย" ที่คุณอาจไม่รู้

เปิดอ่าน 26,138 ครั้ง
สร้างรั้วบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
สร้างรั้วบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

เปิดอ่าน 4,663 ครั้ง
การเลือกใช้โปรแกรมเงินเดือนสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
การเลือกใช้โปรแกรมเงินเดือนสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

เปิดอ่าน 10,783 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

เปิดอ่าน 11,729 ครั้ง
ชมย้อนหลัง ดูดวงปี 58 กับ หมอช้าง และ อ.คฑา จากรายการตีสิบ
ชมย้อนหลัง ดูดวงปี 58 กับ หมอช้าง และ อ.คฑา จากรายการตีสิบ

เปิดอ่าน 12,607 ครั้ง
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ

เปิดอ่าน 18,232 ครั้ง
กำเนิดหมากฝรั่ง
กำเนิดหมากฝรั่ง

เปิดอ่าน 302,726 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 36,118 ครั้ง
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 3
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 3

เปิดอ่าน 37,576 ครั้ง
คำน่ารู้ในการสมัครงาน
คำน่ารู้ในการสมัครงาน

เปิดอ่าน 7,540 ครั้ง
สาธิตการเติมสันจมูกให้ได้รูป
สาธิตการเติมสันจมูกให้ได้รูป

เปิดอ่าน 31,205 ครั้ง
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล

เปิดอ่าน 29,463 ครั้ง
วังสุโขทัยหรือวังศุโขทัย
วังสุโขทัยหรือวังศุโขทัย
เปิดอ่าน 15,567 ครั้ง
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
เปิดอ่าน 12,062 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
เปิดอ่าน 18,737 ครั้ง
เกมส์แต่งตัว
เกมส์แต่งตัว
เปิดอ่าน 107,865 ครั้ง
การกำเนิดของศาสนาพราหมณ์
การกำเนิดของศาสนาพราหมณ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ