ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีในสถานศึกษา อดุลย์ กองทอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑

การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีในสถานศึกษา

อดุลย์ กองทอง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑

บทนำ

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบันปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจของสังคมไทยที่ตกต่ำก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น ปัญหาการว่างงาน หนี้สิน ปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด ส่งผลกระทบ ต่อการศึกษา จึงจำเป็นต้องปฏิรูปและสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี ขึ้นใหม่ประเทศไทย มีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการหลายประการ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ของสังคมใหม่ ดังปรากฏอยู่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๕๘ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งมีสาระสำคัญต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประชาชน ทุกภาคส่วนกับหน่วยงานทั้งหลายของรัฐตามแนวทางประชารัฐภายใต้กฎเกณฑ์ตามหลักการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยและประเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์และลักษณะสังคมไทย หลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน และหลักธรรมาภิบาลอันจะทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนา ไปข้างหน้าได้อย่างเป็นขั้นตอนจนเกิดความมั่นคงมั่งคั่ง และยั่งยืนทั้งในทางการเมืองการปกครองเศรษฐกิจและสังคมตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (ราชกิจจานุเบกษา, ๒๕๖๐ : ๒) การสร้างระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีสำหรับสังคมไทยโดยเน้นการเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้ามา มีส่วนร่วมในการตัดสินใจของภาครัฐมากขึ้น การประกันและคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ภาครัฐให้มีการบริหารการปกครองที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบโดยประชาชนมากขึ้น หลักธรรมาภิบาลสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต้องมีการวางระบบการตรวจสอบที่น่าเชื่อถือ และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย การบริหารจัดการ และการติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานของภาครัฐได้โดยเฉพาะผู้นำองค์กรของรัฐต้องยึดถือ และเป็นแบบอย่างในเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต และอาศัยหลักธรรมา ภิบาลในการบริหารโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นที่ตั้ง (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการ พลเรือน, ๒๕๕๖)

แนวคิดสำคัญ

แนวคิดเรื่องธรรมาภิบาล (Good Governance) ได้รับความสนใจอย่าง กว้างขวางทั้งองค์การภาครัฐ และภาคเอกชนให้ความสำคัญกับนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ใน การบริหารเพื่อให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้โดยนำศาสตร์และศิลป์พร้อมด้วย ทรัพยากรทางการบริหารมาใช้ในกระบวนการบริหารได้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพในขณะเดียวกันแนวคิดเรื่องการบริหารที่ดีจากต่างประเทศได้เผยแพร่เข้าสู่ประเทศไทยโดย นักคิดนักวิชาการองค์กรพัฒนาต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงการบริหารกิจการ บ้านเมืองและสังคมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเพื่อกำหนด หลักเกณฑ์ ของสังคมใหม่ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ๒๕๕๙ : ๘-๙) ซึ่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (พ.ศ. ๒๕๔๖) ได้กำหนดหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองและสังคมที่ดีหรือ “หลักธรรมาภิบาล” ไว้ทั้งหมด ๖ ประการด้วยกัน คือ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ หลักความคุ้มค่า โดยกำหนด ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง กำหนดแผนโครงการเพื่อปรับปรุงงานในความรับผิดชอบให้สอดคล้องกับ หลักธรรมาภิบาลการที่จะทำให้คนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์จึงจำเป็นที่ต้องบูรณะและสร้างระบบบริหารกิจการ บ้านเมืองและสังคมที่ดีขึ้นใหม่โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ของสังคม ใหม่ดังปรากฏ ในรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนซึ่งมีสาระสำคัญคือความพยายามในการสร้าง ระบบการบริหารกิจการบ้านเมือง ที่ดี (สถาบัน The Best Center, ๒๕๖๐ : ๑๔๖)

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้เล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับการ บริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารเป็นอย่างยิ่ง จึงได้วางหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนได้ให้ ความรู้ในภาคทฤษฏีและฝึกปฏิบัติในเรื่องความรู้ทางด้าน การจัดการและการสร้างระบบธรรมาภิบาลในสถานศึกษา เพื่อให้เกิดทักษะประกอบกับเทคนิคในการบริหารงานซึ่ง ได้ชี้ให้เห็นว่าผู้บริหารจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวใน การบริหารนั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารงานที่ดีและมีการนำหลัก ธรรมาภิบาลเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานของโรงเรียน อย่างเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน (กระทรวง ศึกษาธิการ, ๒๕๔๖ : ๒๕) ในการบริหารงานเขตพื้นที่มีการกระจายอำนาจในทุก ๆ ด้านไปสู่สถานศึกษา ผู้บริหารโรงเรียนจึงมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบสูงขึ้น และต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถในการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประเทศชาติและในการจัดการศึกษาในสถานศึกษาจะสำเร็จตามเป้าหมาย หรือบรรลุวัตถุประสงค์ ของหน่วยงานทางราชการมากน้อยเพียงใดนั้นย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารงานด้วยหลัก ธรรมาภิบาลของผู้บริหารโรงเรียน

การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีในสถานศึกษาควรจัดหรือส่งเสริมให้สังคมไทยอยู่บนพื้นฐานของหลักสำคัญอย่างน้อย ๖ ประการ หรือที่เรียกว่า หลักธรรมาภิบาล ประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่าคุ้มทุน โดยเฉพาะหลักการมีส่วนร่วม เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ ร่วมแสดงความคิด และร่วมในการบริหาร (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมือง และสังคมที่ดีพ.ศ. ๒๕๔๒, ๒๕๔๒) จุดมุ่งหมายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ(ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๓ มิได้มุ่งเน้นแต่เพียงเพื่อให้คนได้รับการพัฒนาและเรียนรู้ในด้านวิทยาการ และเทคโนโลยีต่าง ๆ เท่านั้นแต่ต้องการให้คนมีพัฒนาการในด้านวิทยาการและเทคโนโลยีต่างๆไปพร้อม ๆ กับการปลูกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต เพื่อให้สามารถ ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจและสติปัญญา การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคม ที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นในสถานการณ์ ปัจจุบันโดยเฉพาะในเรื่องของการบริหารจัดการด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในสถานศึกษา และในระดับชั้นประถมศึกษานั้น ถือเป็นการศึกษาระดับขั้นพื้นฐานในการที่จะสร้างประชาธิปไตย และหลักธรรมาภิบาลให้เกิดแก่เยาวชน ครูผู้ปกครอง รวมทั้ง ผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งถ้าผู้บริหารสถานศึกษา ระดับประถมศึกษาได้นำหลักธรรมาภิบาลไปใช้อย่างต่อเนื่อง และจริงจังแล้วย่อมจะเกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการสถานศึกษา (อภิญญา อินทฉิม, ๒๕๖๐)

ผู้บริหารสถานศึกษาในฐานะที่เป็นผู้บริหารโรงเรียนซึ่งเป็นนิติบุคคล และมีอำนาจหน้าที่ เป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ รวมทั้งการจัดทำนิติกรรมสัญญาในนามสถานศึกษาและเป็นผู้มีอำนาจ ในการตัดสินใจในการดำเนินกิจการของสถานศึกษาพึงต้องยึดหลักคุณธรรม หลักนิติธรรมในการปฏิบัติงานเพื่อให้ผู้ร่วมงานเชื่อถือและยอมรับ จากการที่รัฐกำหนดให้มีมาตรฐานด้านคุณธรรมจริยธรรมของข้าราชการ มีการปรับเปลี่ยนบทบาทภารกิจ วิธีการบริหารงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ มีการนำระบบ บริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี มาเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อให้ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ เอกชนและประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ระบบบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี หรือ ธรรมาภิบาลนับเป็นมิติของกระบวนทัศน์ใหม่ของการบริหารภาครัฐซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ การเน้นบทบาทของผู้บริหารงานภาครัฐในฐานะ ที่เป็นผู้ให้บริการที่มีคุณภาพสูงตามที่ประชาชนต้องการสนับสนุนให้เกิดความเป็นอิสระในการบริหารงานแต่ละระดับมากขึ้น การบริหารงานอย่างโปร่งใสมีคุณภาพด้วยระบบธรรมาภิบาล จึงเป็นหัวใจสำคัญยิ่ง ของทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือเอกชนที่ต้องอาศัยการปรับตัว และเตรียมความพร้อม ของประชาชน และผู้บริหารในทุกระดับ (เกษม วัฒนชัย, ๒๕๔๖)

ธรรมาภิบาลจะเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์ แต่ด้วยความสลับซับซ้อนและความหลากหลาย ในแต่ละประเทศทำให้การจะสร้างตัวแบบเดียวของธรรมาภิบาลเป็นไปได้ยาก การจะมีตัวแบบในลักษณะ ที่เป็นการตัดเสื้อโหลขนาดเดียวใส่ได้ทั้งหมด (One-Size-Fits-All) นั้นเป็นไปไม่ได้เพราะแต่ละประเทศล้วนแต่มีความแตกต่างในบริบทและประวัติศาสตร์ชาติของตนเอง เช่น สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ดีในประเทศแถบเอเชียแต่อาจจะไม่เหมาะกับประเทศอื่นในแถบแอฟริกา (Grindle, ๒๐๑๐) ดังนั้น เพื่อที่จะสร้างธรรมาภิบาลที่ดีกว่า (Better Governance) แต่ละประเทศจึงต้องมีความเต็มใจที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตและปรับปรุง แนวทางต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละท้องที่ของตน (Park, ๒๐๐๔) มากกว่าการพยายามนำธรรมาภิบาลแบบสากลมาใช้โดยขาดการปรับใช้ หากมองในแง่การแบ่งโครงสร้างองค์การโดยจำแนก ตามหน้าที่แล้ว (Functional Classification) แล้วจะพบว่าองค์การประเภทโรงเรียนโดยทั่วไปมีการบริหาร งานประกอบไปด้วยสี่ส่วนหลัก ๆ คือ การบริหารงานบุคคล บริหารงบประมาณ บริหารวิชาการ และบริหารทั่วไปโดยองค์การประเภทโรงเรียนมีความแตกต่างจากองค์การทั่วๆไป คือ เรื่องการบริหารวิชาการเพราะ ในองค์การประเภท โรงเรียนนั้น งานวิชาการถือเป็นหัวใจของการบริหาร (ไพฑูรย์ สินลารัตน์, ๒๕๕๓) ถือเป็นงานหลักของการบริหารสถานศึกษาไม่ว่าสถานศึกษาจะเป็นประเภทใด มาตรฐาน และคุณภาพ ของสถานศึกษาจะพิจารณาได้จากผลงานด้านวิชาการ เนื่องจากงานวิชาการเกี่ยวข้องกับหลักสูตรการจัดโปรแกรมการศึกษา และการจัดการเรียนการสอนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสถานศึกษา (ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์,๒๕๕๓)

อีกแนวความคิดในการการบริหารจัดการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล (Good governance) คือ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจหลักการสำคัญของธรรมาภิบาลและนำไปสู่การปฏิบัติในสถานศึกษาสำหรับการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลนั้น มีหลักการสำคัญ ๘ หลักการ ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความ โปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ หลักความคุ้มค่า หลักประสิทธิภาพและประสิทธิผล และหลักความมีเหตุผลซึ่งใช้เป็นหลักการทำให้การบริหารงานภายในสถานศึกษาเกิดความสมดุลระหว่าง ฝ่ายบริหาร ฝ่ายปฏิบัติและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับความสุขและความสำเร็จในการทำงานภายในองค์การของตน เกิดความมั่นใจในการบริหารคุณภาพการจัด การศึกษาเพราะยึดหลักการทำงานแบบมีส่วนร่วม (อภิรมย์ สิงนาค และกฤษฎา นันทเพ็ชร, ๒๕๕๗)

บทสรุป

ธรรมาภิบาลแม้จะเป็นหลักการที่ดีแต่การนำไปใช้ในองค์การอื่น ๆ ควรมีการนำไปปรับใช้ให้มาบูรณาการใช้ในการบริหารจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษาทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ ในการพัฒนาการบริหารจัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบที่เกี่ยวข้องเหมาะสมกับบริบทขององค์การนั้น ๆ กับการศึกษาการบริหารและการตัดสินใจ มีความถูกต้องก่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้มารับบริการ รวมทั้งจะสามารถลดความขัดแย้งทั้งต่อผู้มารับบริการและบุคลากรในสถานศึกษาได้เป็น อย่างดีการรับรู้หลักการบริหารจัดการโดยใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการการศึกษาซึ่งในกรณีของโรงเรียนนั้น ธรรมาภิบาลในโรงเรียนน่าจะประกอบไปด้วยหลักการอย่างน้อย ๘ ประการ คือ หลัก นิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ หลักความคุ้มค่า หลักความมั่นคง และหลักเป้าหมายสอดคล้องต่อสังคม ซึ่งหลักการทั้ง ๘ ประการ จะต้องนำไปใช้บูรณาการในการบริหารงานโรงเรียน ทั้งสี่ส่วนคือ การบริหารวิชาการ การบริหารงานบุคคล การบริหาร งบประมาณ และการบริหารทั่วไป ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายจะนำไปสู่การมีผู้เรียนที่มีคุณภาพ คือ เป็นคนดี คนเก่ง และคนมีความสุข

เอกสารอ้างอิง

เกษม วัฒนชัย. ธรรมาภิบาล...บทบาทสำคัญกรรมการสถานศึกษา. รายงานการปฏิรูป การศึกษาไทย,

๒๕๔๖.

กระทรวงศึกษาธิการ. การบริหารสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลกระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ :

กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๖.

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. การบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพฯ : ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ, ๒๕๕๓.

ไพฑูรย์ สินลารัตน์. ผู้นำเชิงสร้างสรรค์และผลิตภาพ : กระบวนทัศน์ใหม่และผู้นำใหม่ทางการศึกษา.

กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๓.

ราชกิจจานุเบกษา. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย, ๒๕๖๐ : ๒.

อภิรมย์ สิงนาค และกฤษฎา นันทเพ็ชร. การบริหารสถานศึกษาของรัฐตามหลักธรรมาภิบาลในจังหวัด

สมุทรปราการ. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ ๖ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘.

อภิญญา อินทฉิม. นักศึกษาหลักสูตรปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยปทุมธานี ๒๕๖๐.

สถาบัน The Best Center. คู่มือนักวิเคราะห์วิเคราะห์โยบายและแผนปฏิบัติการ. กรุงเทพมหานคร :

เดอะเบสท์เซ็นเตอร์อินเตอร์กรุ๊ปจํากัด, ๒๕๖๐.

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. การปรับใช้สมรรถนะในการบริหารทรัพยากร มนุษย์,

เอกสารประกอบการสัมมนาเรื่องสมรรถนะของข้าราชการ, ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒, ๒๕๔๖.

สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ฉบับที่ ๑๒. กรุงเทพมหานคร : สํานักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ,

๒๕๕๙.

โพสต์โดย daeng : [20 ก.พ. 2562 เวลา 06:07 น.]
อ่าน [4771] ไอพี : 182.53.96.202
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,259 ครั้ง
ไมยราบไร้หนาม
ไมยราบไร้หนาม

เปิดอ่าน 25,284 ครั้ง
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 16,946 ครั้ง
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ

เปิดอ่าน 16,707 ครั้ง
หากสงสัยว่าเป็นโรคไขมันในตับให้กินผักชีล้อม
หากสงสัยว่าเป็นโรคไขมันในตับให้กินผักชีล้อม

เปิดอ่าน 44,423 ครั้ง
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี

เปิดอ่าน 18,758 ครั้ง
ยุบ ศธจ.ศจภ? : การทับซ้อนของอำนาจบริหาร? โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
ยุบ ศธจ.ศจภ? : การทับซ้อนของอำนาจบริหาร? โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

เปิดอ่าน 46,945 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)

เปิดอ่าน 17,007 ครั้ง
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว

เปิดอ่าน 7,338 ครั้ง
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด
"Alprazolam" ไม่ใช่ "ยาเสียสาว" เป็นยานอนหลับ แก้อาการกังวล ง่วงซึม แต่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด

เปิดอ่าน 47,808 ครั้ง
เคล็ดลับการซักรีดให้เสื้อผ้าหอมคงทน
เคล็ดลับการซักรีดให้เสื้อผ้าหอมคงทน

เปิดอ่าน 1,155 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

เปิดอ่าน 11,715 ครั้ง
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"

เปิดอ่าน 20,311 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู

เปิดอ่าน 30,293 ครั้ง
ระบบเลือดไหลเวียน
ระบบเลือดไหลเวียน

เปิดอ่าน 14,289 ครั้ง
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว

เปิดอ่าน 44,160 ครั้ง
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ
เปิดอ่าน 176,430 ครั้ง
สาระดีๆ สำหรับครูที่ต้องการจัดทำผลงาน(คศ.3)
สาระดีๆ สำหรับครูที่ต้องการจัดทำผลงาน(คศ.3)
เปิดอ่าน 8,031 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่8
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่8
เปิดอ่าน 41,032 ครั้ง
แนะครูกระตุ้นเด็กขี้สงสัย
แนะครูกระตุ้นเด็กขี้สงสัย
เปิดอ่าน 16,192 ครั้ง
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ