ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ
เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นายนิกรม หมอจิตร
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
จังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับหลักพุทธธรรมเพื่อให้นักเรียนได้มีการพัฒนาการคิดอย่างมีวิจารญาณผ่านการฝึกกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ สามารถส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียน
แบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม ก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียน
แบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3) เพื่อศึกษา
ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม ที่มีต่อการเรียนด้วย
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก
พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ใช้กลุ่มทดลอง
แบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียน
ที่ 1 ปีการวิจัย 2560 โรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน 25 คน
ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับฉลาก โดยใช้ห้องเรียน
เป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบ
การเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ชุด
2) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก
พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา
และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นแบบปรนัย
ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ได้ค่าความยาก (p) อยู่ระหว่าง 0.60 0.80
ค่าอำนาจจำแนก (B) อยู่ระหว่าง 0.28 0.95 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.80
และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (rxy) ตั้งแต่ 0.36 - 0.78 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
คือ การคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและตรวจสอบสมมติฐานโดยใช้ t test (Dependent and Independent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ
เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 88.67/86.20
ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาดกเรื่องเล่า กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
มีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.54 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.34
โดยสรุป การใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการเป็นวิธีการสอนที่ช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนให้สูงขึ้น ทั้งยังมีความเหมาะสมที่จะไปเป็นแนวทางในการใช้
สอนผู้เรียนในระดับต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิผลได้จึงควรได้รับการสนับสนุน
ให้นำไปทำการวิจัยต่อไป