ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง : รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es)

เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้ศึกษา : นางสาวรัฐสิริ ตรุณจันทร์

หน่วยงาน : โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี

จังหวัดอุดรธานี

ปีที่รายงาน : 2561

บทคัดย่อ

รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es)เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี

สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี โดยมีวัตถุประสงค์ (1)เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องสารและการเปลี่ยนแปลงของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75(2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง

การเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความเรียนรู้ 7 ขั้น(7Es)เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 ก่อนเรียนและหลังเรียน (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องแรงและการเคลื่อนที่กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ในการศึกษาครั้งนี้กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี ปีการศึกษา 2561จำนวน 35คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย

1. แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องแรงและการเคลื่อนที่กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 จำนวน 15 แผน

2. แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ชนิดเลือกตอบ 4ตัวเลือกจำนวน40 ข้อ

3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3/3 ที่มีต่อ

การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้7 ขั้น (7Es)จำนวน 40 ข้อ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการศึกษาได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพE1/E2 ของแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) ตามเกณฑ์ และการทดสอบสมมุติฐานโดยใช้t-test แบบ Dependent Samplesผลการศึกษา พบว่า

1. แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2561 มีประสิทธิภาพ 79.55/78.01สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ75/75

2.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7ขั้น (7Es) เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1โดยรวมมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนและเมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น(7Es) พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 18.32 และคะแนนเฉลี่ย

หลังเรียนเท่ากับ 31.20ซึ่งคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ที่ระดับ0.01

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) เรื่องแรงและการเคลื่อนที่มีความพึงพอใจ โดยรวมอยู่ในระดับมากและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะทั่วไป

1.1ควรนำแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้7 ขั้น (7Es)ไปปรับใช้กับนักเรียนห้องอื่น หรือระดับชั้นอื่น ๆ โดยปรับเนื้อหา ระยะเวลาให้ยืดหยุ่นเหมาะสมกับสภาพนักเรียนและบริบทของห้องเรียนนั้น ๆ

1.2ครูควรกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยใช้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและน่าสนใจในปัจจุบันรวมถึงใช้คำถามที่น่าสนใจ โดยจัดลำดับคำถามให้ชัดเจนไม่วกวนไปมา

1.3ผู้ที่จะนำแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้7 ขั้น (7Es)กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่3เรื่องแรงและการเคลื่อนที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ควรทำการปฐมนิเทศนักเรียนให้เข้าใจแนวทางการเรียนรู้ก่อน และครูควรวิเคราะห์ผู้เรียนก่อนโดยแยกเป็นกลุ่ม เก่ง ปานกลางและอ่อนเพื่อการจัดกลุ่มโดยคละเด็กเก่ง กลาง และอ่อน เพื่อประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้

2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาต่อไป

2.1 ควรมีการพัฒนาแผนการสอนและเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนเพิ่มเติม

2.2ควรมีการเปรียบเทียบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้7ขั้น (7Es)และการจัดการเรียนรู้รูปแบบอื่น ๆ

2.3ควรมีการบูรณาการการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นกับสาระการเรียนรู้อื่น ๆ โดยปรับให้เหมาะสมกับสภาพผู้เรียนและสภาพแวดล้อมของผู้ศึกษา

2.4ในการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7ขั้น (7Es)การแบ่งเนื้อหาย่อย ๆออกเป็นส่วน ๆ นั้นควรคำนึงถึงเวลาที่ใช้ในการเรียนการสอนด้วย

โพสต์โดย หนุงหนิง : [18 ก.พ. 2562 เวลา 18:41 น.]
อ่าน [3941] ไอพี : 223.24.189.211
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,263 ครั้ง
ผมสวยด้วยผักสวนครัว
ผมสวยด้วยผักสวนครัว

เปิดอ่าน 7,770 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่8
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่8

เปิดอ่าน 49,850 ครั้ง
ยาสตรี คืออะไร?
ยาสตรี คืออะไร?

เปิดอ่าน 28,586 ครั้ง
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)

เปิดอ่าน 11,304 ครั้ง
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้  ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้ ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"

เปิดอ่าน 11,748 ครั้ง
เดิน วิ่ง เพื่อบำรุงสมอง
เดิน วิ่ง เพื่อบำรุงสมอง

เปิดอ่าน 10,892 ครั้ง
รวยด้วยมรรค 8
รวยด้วยมรรค 8

เปิดอ่าน 14,575 ครั้ง
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น

เปิดอ่าน 20,430 ครั้ง
15 เรื่องกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
15 เรื่องกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 44,468 ครั้ง
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้

เปิดอ่าน 1,895 ครั้ง
เตือน!กลโกงคนใกล้ตัว ระวังเซ็นเอกสารอาจเสียทรัพย์ เป็นหนี้หมดตัว
เตือน!กลโกงคนใกล้ตัว ระวังเซ็นเอกสารอาจเสียทรัพย์ เป็นหนี้หมดตัว

เปิดอ่าน 13,465 ครั้ง
qr code คืออะไร
qr code คืออะไร

เปิดอ่าน 12,819 ครั้ง
กิจกรรมวันสงกรานต์
กิจกรรมวันสงกรานต์

เปิดอ่าน 21,774 ครั้ง
การศึกษาความสัมพันธ์ของประสบการณ์การทำงานฯ ต่อวัฒนธรรมการทำงานของครู
การศึกษาความสัมพันธ์ของประสบการณ์การทำงานฯ ต่อวัฒนธรรมการทำงานของครู

เปิดอ่าน 15,420 ครั้ง
สถิติการศึกษาของประเทศไทย ปีการศึกษา 2556-2557
สถิติการศึกษาของประเทศไทย ปีการศึกษา 2556-2557

เปิดอ่าน 41,261 ครั้ง
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันเกิด
เปิดอ่าน 16,221 ครั้ง
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
เปิดอ่าน 5,155 ครั้ง
เผยเด็กไทยเจนวายหวังรวยทางลัด หันเล่นหุ้นเหมือนเด็กจีน
เผยเด็กไทยเจนวายหวังรวยทางลัด หันเล่นหุ้นเหมือนเด็กจีน
เปิดอ่าน 8,666 ครั้ง
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา
เปิดอ่าน 9,498 ครั้ง
บางอ้อ : ครูพันธุ์ใหม่ หัวใจไฮเทค
บางอ้อ : ครูพันธุ์ใหม่ หัวใจไฮเทค

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ