ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

บทคัดย่อ การพัฒนาแบบฝึกคำศัพท์โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยการสอนแบบผสมผสาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกคำศัพท์โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยการสอนแบบผสมผสาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย นางกัญณาภัค พรหมศิริ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองหนองคาย

ปีที่ยื่นเสนอ พ.ศ. 2562

บทคัดย่อ

การพัฒนาแบบฝึกคำศัพท์ โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนแบบผสมผสาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกคำศัพท์โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนแบบผสมผสาน ให้มีความเหมาะสมกับการจัดกระบวนการเรียนรู้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พร้อมกับพัฒนาให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ (E1/E2) 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผล (I.E.) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะพัฒนา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา

สำนักการศึกษา เทศบาลเมือง หนองคาย ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน มีวิธีดำเนินการวิจัย

โดยการทดสอบก่อนเรียน แล้วเรียนโดยใช้แบบฝึกคำศัพท์กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ

ด้วยการสอนแบบผสมผสานพร้อมกับการทดสอบระหว่างเรียน 10 ครั้ง แล้วทดสอบหลังเรียนพร้อมกับการเก็บรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นต่อการเรียน ด้วยแบบสอบถามความคิดเห็น แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมติฐานโดยการใช้ t – test (dependent sample)

ผลการวิจัย พบว่า :

1. ผลการประเมินความเหมาะสม ของแบบฝึกคำศัพท์โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนแบบผสมผสาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการหาค่าเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วแปลความหมายตามเกณฑ์ โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 9 ข้อ นอกนั้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามอันดับ ได้ดังนี้ คือ อันดับที่ 1 ข้อ 3) สาระการเรียนรู้กับระดับชั้นของผู้เรียน อันดับที่ 2 ข้อ 6) บทบาทของนักเรียน มีกระบวนการแลกเปลี่ยนบทบาทตามขั้นตอน และอันดับที่ 3 มีค่าเฉลี่ย เท่ากัน 7 ข้อ

คือ ข้อ 2), 5), 7), 10), 12), 13) และข้อ 14) นอกนั้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก

2. ค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกคำศัพท์โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ

ด้วยการสอนแบบผสมผสาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพกระบวนการ/ประสิทธิภาพผลลัพธ์ E1/E2) = 87.47/85.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (80/80) ซึ่งเป็นไป

ตามสมมติฐานข้อที่ 1

3. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้

ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกกลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ ก่อนเรียน มีคะแนนเฉลี่ย 14.07 คิดเป็นร้อยละ 28.13 ของคะแนนเต็ม และ

หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 42.63 คิดเป็นร้อยละ 85.27 ส่วนคะแนนพัฒนาการ (D) มีค่าเฉลี่ย 28.57

คิดเป็นร้อยละ 57.13 ของคะแนนเต็ม (50 คะแนน)

4. ค่าดัชนีประสิทธิผล ของแบบฝึกคำศัพท์โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนแบบผสมผสาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7949 ตามค่า

ดัชนีประสิทธิผลที่ได้ หมายความว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7949 (เทียบกับ 1 ตามค่าดัชนีประเมินค่า

ดัชนีประสิทธิผลสูงสุด) หรือคิดเป็นร้อยละ 79.49

5. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน

ด้วยแบบฝึกกลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนแบบผสมผสาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01

ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2

6. ความคิดเห็นสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ใช้แบบฝึกคำศัพท์โดยใช้กลวิธีการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษ ด้วยการสอนแบบผสมผสาน โดยรวม พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด 6 ข้อ นอกนั้นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก

9 ข้อ และเมื่อเรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามอันดับได้ดังนี้ อันดับหนึ่ง คือ ข้อ 13)

การเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษทำให้ข้าพเจ้าเห็นความจำเป็นในการฝึกฝนทักษะด้านโครงสร้างคำและบริบทคำ อย่างจริงจัง อันดับสอง คือ ข้อ 8) ขั้นฝึกหัด (practice) มีแบบฝึกหัดเพียงพอในการฝึกฝนโครงสร้างคำและบริบทคำที่ได้เรียนมา และอันดับสาม มี 2 ข้อ คือ ข้อ 1) ตัวอักษรอ่านง่ายและชัดเจน และข้อ 3) การนำเสนอกิจกรรมแต่ละขั้นตอนมีความชัดเจน มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน

โพสต์โดย บี๋ : [16 ก.พ. 2562 เวลา 20:12 น.]
อ่าน [66461] ไอพี : 58.11.24.32
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,744 ครั้ง
โยคะในรถยามจราจรติดขัด
โยคะในรถยามจราจรติดขัด

เปิดอ่าน 57,999 ครั้ง
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?

เปิดอ่าน 32,746 ครั้ง
สำนวนภาษาอังกฤษ
สำนวนภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 14,118 ครั้ง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง

เปิดอ่าน 10,943 ครั้ง
แนวปฏิบัติการจัดทำสัญญาค้ำประกันที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนชำระของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ใหม่
แนวปฏิบัติการจัดทำสัญญาค้ำประกันที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนชำระของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ใหม่

เปิดอ่าน 12,946 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : เด็กจะกระตือรือร้นและมีความสุขในการเรียนเมื่อใด......ภาพนี้มีคำตอบ
ตูนส์ศึกษา : เด็กจะกระตือรือร้นและมีความสุขในการเรียนเมื่อใด......ภาพนี้มีคำตอบ

เปิดอ่าน 4,636 ครั้ง
จัดอาหารกลางวันมีคุณภาพ กระตุ้นพัฒนาการเด็กวัยเรียน
จัดอาหารกลางวันมีคุณภาพ กระตุ้นพัฒนาการเด็กวัยเรียน

เปิดอ่าน 10,339 ครั้ง
"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน
"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน

เปิดอ่าน 30,469 ครั้ง
ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?
ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?

เปิดอ่าน 26,961 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux

เปิดอ่าน 13,691 ครั้ง
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้

เปิดอ่าน 13,773 ครั้ง
คันนี้ร้อยล้าน
คันนี้ร้อยล้าน

เปิดอ่าน 11,350 ครั้ง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง

เปิดอ่าน 11,235 ครั้ง
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้

เปิดอ่าน 23,460 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 38,507 ครั้ง
Download คู่มือ เส้นทางครูมืออาชีพสำหรับครูผู้ช่วย
Download คู่มือ เส้นทางครูมืออาชีพสำหรับครูผู้ช่วย
เปิดอ่าน 83,464 ครั้ง
ภาพ/คำกลอน/คำคม เกี่ยวกับครู
ภาพ/คำกลอน/คำคม เกี่ยวกับครู
เปิดอ่าน 12,618 ครั้ง
ทราบหรือไม่? "เฟซบุ๊ก"แอบเปลี่ยนอีเมลแอดเดรสของท่านเป็น "@facebook.com"
ทราบหรือไม่? "เฟซบุ๊ก"แอบเปลี่ยนอีเมลแอดเดรสของท่านเป็น "@facebook.com"
เปิดอ่าน 4,738 ครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"
กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"
เปิดอ่าน 21,446 ครั้ง
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ